1. ติดตั้ง EV Charger ที่บ้านคุ้มค่าแค่ไหน? คำนวณการคืนทุนให้เห็นชัด
1.1 วิธีคำนวณค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง EV Charger อย่างง่าย
การคำนวณค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง EV Charger อาจดูยุ่งยาก แต่ถ้าเราแบ่งเป็นส่วนๆ ก็จะเข้าใจง่ายขึ้น ค่าใช้จ่ายหลักๆ จะประกอบด้วย
- ค่าตัวเครื่องชาร์จ: ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และฟังก์ชันการใช้งาน
- ค่าติดตั้ง: รวมค่าแรงช่างและอุปกรณ์เสริมต่างๆ
- ค่าไฟฟ้าในการชาร์จ: ขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าและระยะทางที่ขับขี่
1.2 ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายโดยละเอียด
สมมติว่าคุณมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า 15 หน่วยต่อการขับขี่ 100 กิโลเมตร และคุณขับรถเฉลี่ยวันละ 50 กิโลเมตร โดยค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4 บาท และค่าติดตั้ง EV Charger อยู่ที่ 20,000 บาท
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: 20,000 บาท (ค่าติดตั้ง)
ค่าไฟฟ้าต่อเดือน: 50 กม./วัน x 30 วัน x 15 หน่วย/100 กม. x 4 บาท/หน่วย = 900 บาท
ค่าใช้จ่ายน้ำมัน (เพื่อเปรียบเทียบ): สมมติว่ารถยนต์สันดาปภายในใช้น้ำมัน 1 ลิตร วิ่งได้ 15 กิโลเมตร และราคาน้ำมันลิตรละ 35 บาท ค่าใช้จ่ายน้ำมันต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาท
จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ชัดว่า การใช้รถยนต์ไฟฟ้าและชาร์จที่บ้านจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากถึงเดือนละ 2,600 บาท
1.3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาคืนทุนของการใช้ EV Charger
ระยะเวลาในการคืนทุนของการติดตั้ง EV Charger ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยหลักๆ ได้แก่
1.3.1 ระยะทางการขับขี่ต่อวัน
ยิ่งขับมาก ยิ่งคืนทุนเร็ว
ผู้ที่ขับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประจำทุกวัน เช่น พนักงานขายที่ต้องเดินทางออกนอกสถานที่บ่อยๆ หรือผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นพาหนะหลักในการเดินทางไปทำงาน ก็จะสามารถชาร์จไฟได้บ่อย และเห็นผลตอบแทนจากการประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้เร็วกว่าผู้ที่ขับรถน้อย
กรณีตัวอย่าง
สมมติว่าคุณ A ขับรถไปทำงานวันละ 50 กิโลเมตร และชาร์จไฟที่บ้านในราคาหน่วยละ 4 บาท หากรถยนต์ไฟฟ้าของคุณวิ่งได้ระยะทางเฉลี่ย 5 กิโลเมตรต่อ 1 หน่วยไฟฟ้า คุณจะต้องใช้ค่าไฟฟ้าในการชาร์จประมาณ 40 บาทต่อวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเชื้อเพลิงของรถยนต์สันดาปภายในแล้ว คุณจะเห็นได้ว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และยิ่งขับรถมากเท่าไหร่ การประหยัดก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย
1.3.2 ราคาไฟฟ้าและน้ำมันที่ผันผวน
ราคาไฟฟ้าถูกลง
หากรัฐบาลมีนโยบายลดราคาไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือมีโปรโมชั่นการชาร์จไฟในช่วงเวลาที่กำหนด ก็จะยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟถูกลง และช่วยเร่งให้เกิดการคืนทุนได้เร็วขึ้น
ราคาน้ำมันแพงขึ้น
เมื่อราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟจะยังคงที่ หรืออาจมีการปรับขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน
1.3.3 อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และมีประสิทธิภาพในการเก็บประจุไฟฟ้าที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้เป็นระยะทางที่ไกลขึ้น และลดความกังวลเกี่ยวกับการหมดแบตเตอรี่ระหว่างทาง
1.4 อายุการใช้งานของ EV Charger และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
1.4.1 อายุการใช้งานเฉลี่ยของ EV Charger
อายุการใช้งานของ EV Charger นั้นค่อนข้างยาวนาน โดยทั่วไปสามารถใช้งานได้หลายปี โดยปราศจากปัญหา แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวเครื่อง การใช้งาน และสภาพแวดล้อมในการติดตั้งด้วยเช่นเดียวกัน
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจาก ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ รับประกันสินค้าสูงสุดถึง 3 ปี!
1.4.2 ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของ EV Charger
- คุณภาพของวัสดุ: EV Charger ที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง จะมีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
- ความถี่ในการใช้งาน: การใช้งาน EV Charger อย่างต่อเนื่องและหนัก อาจส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง
- สภาพแวดล้อม: การติดตั้ง EV Charger ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง หรือมีความชื้นสูง อาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน
- การบำรุงรักษา: การทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพของ EV Charger เป็นประจำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
1.4.3 ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา EV Charger ตลอดอายุการใช้งาน
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา EV Charger นั้นค่อนข้างต่ำ โดยส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพเป็นประจำ ซึ่งสามารถทำได้เอง หรือหากต้องการให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ที่ ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ เรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมเข้าตรวจสอบเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้คุณ!
2. EV Charger ยี่ห้อไหนดี? เลือกยังไงให้เหมาะกับรถของคุณ
2.1 เลือก EV Charger ตามกำลังไฟที่เหมาะสมกับรถของคุณ
2.1.1 กำลังไฟสูงสุดที่รถยนต์ของคุณรองรับ
กำลังไฟสูงสุดที่รถยนต์ของคุณรองรับจะระบุอยู่ในคู่มือรถยนต์ หรือสามารถสอบถามจากผู้จำหน่ายรถยนต์ได้เช่นเดียวกัน โดยทั่วไปแล้ว กำลังไฟสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 7.2 kW หรือ 11 kW
2.1.2 วิธีคำนวณเวลาในการชาร์จตามกำลังไฟของเครื่องชาร์จ
- สูตร: เวลาในการชาร์จ (ชั่วโมง) = ขนาดแบตเตอรี่ (kWh) / กำลังการชาร์จ (kW)
- ตัวอย่าง: หากรถยนต์ของคุณมีแบตเตอรี่ขนาด 60 kWh และใช้เครื่องชาร์จ 11 kW เวลาในการชาร์จจะอยู่ที่ประมาณ 60 kWh / 11 kW = 5.45 ชั่วโมง
2.1.3 ผลกระทบของการเลือกกำลังไฟที่ไม่เหมาะสม
- หากใช้แบบที่กำลังไฟต่ำกว่ากำหนด: หากเลือกเครื่องชาร์จที่มีกำลังไฟต่ำกว่าที่รถยนต์รองรับ เวลาในการชาร์จจะนานขึ้น และอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในระยะยาวได้
- หากใช้แบบที่กำลังไฟสูงกว่ากำหนด: แม้ว่าการใช้เครื่องชาร์จที่มีกำลังไฟสูงกว่าจะทำให้ชาร์จรถได้เร็วขึ้น แต่หากเกินกำลังไฟสูงสุดที่รถยนต์รองรับ อาจทำให้ระบบไฟฟ้าของรถยนต์เสียหายได้
2.2 ฟังก์ชั่นสำคัญที่ควรมีใน EV Charger
2.2.1 ฟังก์ชันการชาร์จแบบ Smart Charging เพื่อประหยัดค่าไฟ
- การชาร์จตามเวลาที่กำหนด: ช่วยให้คุณสามารถตั้งเวลาชาร์จรถในช่วงที่อัตราค่าไฟฟ้าถูกที่สุด เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
- การชาร์จตามปริมาณที่กำหนด: สามารถกำหนดปริมาณการชาร์จได้ตามต้องการ เพื่อป้องกันการชาร์จไฟเกิน
- การเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home: สามารถควบคุมการชาร์จผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home อื่นๆ ได้
2.2.2 ฟังก์ชันการควบคุมการชาร์จผ่านแอปพลิเคชัน
- ตรวจสอบสถานะการชาร์จ: สามารถตรวจสอบสถานะการชาร์จได้แบบเรียลไทม์ ผ่านสมาร์ทโฟน
- ตั้งค่าการชาร์จ: สามารถตั้งค่าการชาร์จได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การตั้งเวลา การตั้งค่ากำลังไฟ
- รับการแจ้งเตือน: ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อการชาร์จเสร็จสิ้น หรือเมื่อเกิดข้อผิดพลาด
2.2.3 ฟังก์ชันความปลอดภัยที่ควรมีใน EV Charger
- การป้องกันกระแสเกิน: ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์และเครื่องชาร์จ
- การป้องกันการรั่วของกระแสไฟฟ้า: มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน
- การป้องกันการรบกวนสัญญาณ: ไม่รบกวนอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ในบ้าน
2.3 แนะนำ 5 รุ่น EV Charger คุณภาพสูงจากแบรนด์ Wallbox จัดจำหน่ายโดยณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์
Wallbox เป็นแบรนด์เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านคุณภาพและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ เป็นตัวแทนจำหน่าย EV Charger จาก Wallbox อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และมีหลากหลายรุ่นให้เลือกสรร เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้งาน
Pulsar Pro
รุ่นพื้นฐานที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น Pulsar Pro
Pulsar Max
รุ่นกลางที่รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชาร์จรถให้เร็วขึ้น
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น Pulsar Max
Pulsar Plus
รุ่นที่ได้รับความนิยม ด้วยฟังก์ชันที่หลากหลายและดีไซน์ที่ทันสมัย
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น Pulsar Plus
Supernova
รุ่นพรีเมียม ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันขั้นสูง เช่น การควบคุมการชาร์จผ่านแอปพลิเคชัน และการเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น Supernova
Commander 2
รุ่นสำหรับการติดตั้งในพื้นที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่มีการใช้งานร่วมกัน
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น Commander 2
3. ประหยัดค่าไฟได้จริงหรือ? คำนวณค่าไฟหลังติดตั้ง EV Charger
3.1 ปัจจัยที่มีผลต่อค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จรถ EV
- อัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลา (Peak, Off-Peak): การเลือกชาร์จรถในช่วงเวลาที่อัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด (Off-Peak) เช่น ช่วงกลางคืน จะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากที่สุด
- ขนาดแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า: รถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการชาร์จมากขึ้นตามไปด้วย
- ระยะทางการขับขี่เฉลี่ยต่อวัน: ยิ่งขับรถมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งต้องชาร์จไฟบ่อยขึ้น และค่าไฟฟ้าก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
- ประสิทธิภาพของ EV Charger: เครื่องชาร์จที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้า และช่วยให้ชาร์จรถได้เร็วขึ้น
3.2 เทียบค่าไฟฟ้าระหว่างการชาร์จที่บ้านกับการชาร์จที่สถานีชาร์จสาธารณะ
3.2.1 อัตราค่าไฟฟ้าที่สถานีชาร์จสาธารณะ
อัตราค่าไฟฟ้าที่สถานีชาร์จสาธารณะมักจะมีราคาสูงกว่าการชาร์จที่บ้าน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสถานี และค่าบริการอื่นๆ
3.2.2 ข้อดีและข้อเสียของการชาร์จที่บ้านและสถานีชาร์จ
การชาร์จที่บ้าน
ข้อดี: สะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถตั้งเวลาชาร์จได้
ข้อเสีย: จำเป็นต้องติดตั้ง EV Charger
การชาร์จที่สถานีชาร์จสาธารณะ
ข้อดี: สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่มีที่จอดรถส่วนตัว
ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง อาจต้องรอคิวในการชาร์จ
3.2.3 การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายโดยรวมในระยะยาว
- ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: การติดตั้ง EV Charger ที่บ้านจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น แต่ในระยะยาวจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า
- ค่าใช้จ่ายต่อหน่วย: ค่าไฟฟ้าที่บ้านมักจะมีราคาถูกกว่าสถานีชาร์จสาธารณะ
- ความสะดวกสบาย: การชาร์จที่บ้านให้ความสะดวกสบายมากกว่า
อ่านเพิ่มเติม: ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน vs. สถานีชาร์จสาธารณะ เลือกแบบไหนดีกว่า?
3.3 วิธีลดค่าไฟฟ้าในการชาร์จรถ EV
- ชาร์จรถในช่วงเวลาที่ค่าไฟฟ้าถูกที่สุด: การเลือกชาร์จรถในช่วงเวลาที่อัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด (Off-Peak) เช่น ช่วงกลางคืน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากที่สุด
- ใช้โปรแกรมการชาร์จอัจฉริยะ: โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการชาร์จรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเลือกเวลาที่เหมาะสมในการชาร์จ เพื่อให้ได้อัตราค่าไฟฟ้าที่ถูกที่สุด
- เลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการชาร์จรถ: การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้าน จะช่วยให้คุณผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ และสามารถนำมาใช้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ ทำให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
- ปรับพฤติกรรมการขับขี่เพื่อประหยัดไฟฟ้า: การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ การหลีกเลี่ยงการเร่งและเบรกกระทันหัน จะช่วยให้คุณใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง และชาร์จรถได้น้อยลง
อ่านเพิ่มเติม: 5 วิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านให้ประหยัดและปลอดภัย
3.4 อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
3.4.1 อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ให้บริการไฟฟ้า และโครงการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ในปัจจุบันหลายหน่วยงานมีการจัดโปรโมชั่นค่าไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
3.4.2 การเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการใช้น้ำมัน
หากเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ค่าไฟฟ้าสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเลือกชาร์จรถในช่วงเวลาที่อัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด
4. วิธีติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน ทำเองได้ไหม?
4.1 ขั้นตอนการติดตั้ง EV Charger เบื้องต้น
4.1.1 การเตรียมพื้นที่และจุดติดตั้ง
- เลือกตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งเครื่องชาร์จ โดยพิจารณาถึงความสะดวกในการใช้งาน และความปลอดภัย
- ตรวจสอบโครงสร้างของผนังและพื้นที่ติดตั้งให้มีความแข็งแรงเพียงพอ
4.1.2 การเดินสายไฟและเชื่อมต่อกับตู้ควบคุมไฟฟ้า
- ช่างไฟฟ้าจะทำการเดินสายไฟจากตู้ควบคุมไฟฟ้าหลักของบ้านมายังจุดติดตั้งเครื่องชาร์จ โดยใช้สายไฟที่มีขนาดและชนิดที่เหมาะสม
- เชื่อมต่อสายไฟเข้ากับตู้ควบคุมไฟฟ้า และติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน (MCB) เพื่อความปลอดภัย
4.1.3 การติดตั้งตัวเครื่องชาร์จและการทดสอบการทำงาน
- ติดตั้งตัวเครื่องชาร์จบนผนัง หรือฐานที่เตรียมไว้
- เชื่อมต่อสายไฟเข้ากับเครื่องชาร์จ และตั้งค่าต่างๆ ตามคู่มือ
- ทดสอบการทำงานของเครื่องชาร์จ โดยการเสียบปลั๊กของรถยนต์ไฟฟ้า และตรวจสอบว่าเครื่องชาร์จทำงานได้ตามปกติหรือไม่
4.2 เหตุผลที่ควรให้ผู้เชี่ยวชาญติดตั้ง EV Charger
- ความปลอดภัยในการใช้งานไฟฟ้า: การติดตั้งระบบไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสูง ผู้เชี่ยวชาญมีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานกับระบบไฟฟ้า ทำให้มั่นใจได้ว่าการติดตั้งจะปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐาน
- การรับประกันและบริการหลังการขาย: หากเกิดปัญหาหรือความเสียหายกับเครื่องชาร์จหลังการติดตั้ง บริษัทผู้ติดตั้งจะรับผิดชอบในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ให้ภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน
- การปฏิบัติตามมาตรฐานการติดตั้ง: ผู้เชี่ยวชาญจะดำเนินการติดตั้งตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องชาร์จทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ที่ ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ เราติดตั้ง EV Charger โดยคำนึงถึงความปลอดภัย มีการรับประกันสินค้า ให้บริการหลังการขายอย่างใส่ใจ และติดตั้งโดยปฏิบัติตามมาตรฐาน
- ติดตั้ง ev charger
- ev charger ยี่ห้อไหนดี
- ev home charger
- เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
- ev charger มีกี่แบบ
- รับติดตั้ง ev charger
5. สิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับ เมื่อติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน
5.1 สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ติดตั้ง EV Charger
มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ติดตั้ง EV Charger
รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มีมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ตัวอย่างการคำนวณภาษีที่ลดลง
การคำนวณภาษีที่ลดลงจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ใช้ในการติดตั้ง EV Charger และอัตราการลดหย่อนภาษีที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น หากรัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีร้อยละ 20 สำหรับค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง EV Charger และคุณใช้เงินไปในการติดตั้ง 50,000 บาท คุณจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท
5.2 ความสะดวกสบายในการชาร์จรถที่บ้าน
ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสถานีชาร์จ
จบปัญหาการต้องออกไปหารสถานีชาร์จสาธารณะที่อาจจะเต็ม หรืออยู่ไกลจากบ้าน ชาร์จรถได้ที่บ้าน สะดวกสบาย รวดเร็ว และประหยัดเวลา
ชาร์จรถได้ตลอดเวลาตามต้องการ
ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางทางอีกต่อไป สามารถชาร์จรถได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน
ความปลอดภัยในการชาร์จรถที่บ้าน
เครื่องชาร์จที่ได้มาตรฐานจะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจร
5.3 เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน
บ้านที่มี EV Charger มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ในยุคที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีมากขึ้น บ้านที่มีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งอยู่ จะเป็นที่ต้องการของตลาด และมีมูลค่าสูงกว่าบ้านทั่วไป
ดึงดูดผู้ซื้อที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า
ผู้ซื้อที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า มักจะมองหาบ้านที่มีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งอยู่ เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่
สัมผัสประสบการณ์การใช้ EV Charger ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดกับ ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์
เห็นได้ชัดว่าการติดตั้ง EV Charger ไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่ยังเป็นการก้าวเข้าสู่วิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ การประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณสามารถคืนทุนสำหรับการติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
พร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่สะดวกสบายและคุ้มค่าแล้วหรือยัง? ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ พร้อมให้บริการติดตั้ง EV Charger ที่บ้านของคุณ ด้วยเครื่องชาร์จคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ
สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อเรา
