Wallbox EV Charger Supernova 150 รวมความอัจฉริยะและประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็ว
Wallbox เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ผู้ผลิตEV Charger ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล ด้วยประสิทธิภาพ การออกแบบ และความปลอดภัยในการใช้งานที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลายระดับ ทำให้แบรนด์มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการในตลาดเสมอ
ซึ่ง Wallbox EV Charger รุ่นSupernova 150 นี้ได้ออกแบบให้สามารถชาร์จในระบบ DC ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะใช้งานในพื้นที่สาธารณะหรือใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างสถานีชาร์จรถไฟฟ้า

ทำความรู้จักประเภทการชาร์จแบบ DC
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC คือรูปแบบการชาร์จโดยการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงจากแท่นชาร์จสู่ตัวรถโดยตรง ทำให้มีความรวดเร็ว สามารถชาร์จเต็มได้ภายในระยะเวลาไม่กี่นาที จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานีชาร์จรถไฟฟ้า โดย Wallbox Supernova 150 นี้มีกำลังไฟสูงสุดถึง 150 kW ทำให้สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายอย่างเห็นได้ชัด
และนอกจากนี้ Wallbox รุ่นSupernova 150 ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีก ได้แก่
ชาร์จได้รวดเร็ว ประหยัดเวลา
ด้วยกำลังไฟสูงสุด 150 kW ทำให้สามารถเติมพลังงานให้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและความจุแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจหลากหลาย เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการ เพื่อให้ลูกค้าหรือพนักงานสามารถชาร์จและใช้งานรถได้อย่างต่อเนื่อง
อ่านบทความน่าสนใจ:เทคโนโลยีใหม่ใน EV Charger ชาร์จเร็ว ชาร์จไว ปลอดภัยยิ่งขึ้น
รองรับรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น
เนื่องจากการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงอาจส่งผลต่อแบตเตอรี่ในรถไฟฟ้าบางรุ่น แต่สำหรับ Wallbox Supernova 150 แล้วอาจไม่เป็นปัญหา เพราะมีการออกแบบมาให้รองรับหัวชาร์จได้หลายรูปแบบ ทั้ง CCS1, CCS2 และ CHAdeMO ทำให้สามารถชาร์จกับรถยนต์ไฟฟ้าได้เกือบทุกรุ่นในตลาด
ใช้งานง่ายด้วยระบบ Touch Screen
Wallbox EV Charger Supernova 150 มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานง่ายและแสดงข้อมูลการชาร์จได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าผู้ใช้งานจะเป็นคนรุ่นไหน คุ้นเคยกับเทคโนโลยีมากน้อยแค่ไหนก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย
อ่านบทความน่าสนใจ:การชาร์จรถไฟฟ้า AC กับ DC ต่างกันอย่างไร?
Wallbox Supernova 150 มีดีที่ฟังก์ชัน ตอบโจทย์การใช้งานจริง
สำหรับ EV Charger จากแบรนด์ Wallbox รุ่น Supernova 150 นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทั้ง 2 แบบ นั่นคือ เจ้าของธุรกิจ และผู้ที่ใช้งานการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้รุ่นนี้ประกอบไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ครบครัน ซึ่งจะมีรายละเอียดข้อดีอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
อ่านบทความน่าสนใจ:แนะนำ 8 โมเดลธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ลงทุนติดตั้ง EV Charger ที่ไหนให้ดี?
1. การเชื่อมต่อที่เสถียร รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายแบบ
Wallbox EV Charger รุ่น Supernova 150 รองรับการเชื่อมต่อผ่าน 4G, Ethernet และ Wi-Fi ทำให้คุณสามารถควบคุม ตรวจสอบสถานะการชาร์จพลังงาน และจัดการการชาร์จได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน myWallbox ช่วยให้การบริหารจัดการสถานีชาร์จเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถตรวจสอบการทำงานได้ตลอดเวลา
และเช่นกันสำหรับผู้ที่ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ที่บ้าน ก็จะสามารถตรวจสอบปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ไปเพื่อนำมาคำนวณค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งในข้อดีจุดนี้จะทำให้กลายเป็นจุดขายที่แข็งแรงสำหรับเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน

2. การจัดการพลังงานแบบ Smart Power Management
Wallbox Supernova 150 นั้นมีการจัดการพลังงานอัจฉริยะ หรือที่เรียกว่า Smart Power Management ซึ่งสามารถรวมเข้ากับระบบจัดการพลังงานของบ้านหรืออาคารได้ ช่วยให้ควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม ป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ไฟเกินกำลัง และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรพลังงานภายในอาคาร ตัวอย่างเช่น โรงงานอุตสาหกรรมสามารถตั้งค่าให้เครื่องชาร์จปรับลดกำลังไฟลงอัตโนมัติในช่วงเวลาที่เครื่องจักรมีการใช้พลังงานสูงสุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานหลักและป้องกันการใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
อ่านบทความน่าสนใจ:ปรับ Power Limit ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย MyWallbox ประหยัดไฟ ปลอดภัยชัวร์
3. แข็งแรงทนทาน ติดตั้งได้ในสภาพแวดล้อมหลากหลาย
ด้วยการออกแบบที่แข็งแรงทนทานตามมาตรฐานอุตสาหกรรม IP54 และ IK10 ทำให้ Wallbox EV Charger รุ่น Supernova 150 มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง ฝุ่นละออง และแรงกระแทก สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่สาธารณะที่มีการใช้งานอยู่บ่อยครั้ง เช่น ลานจอดรถ หรือปั๊มน้ำมัน
อ่านบทความน่าสนใจ:เพิ่มมูลค่าคอนโดด้วยสถานีชาร์จรถไฟฟ้า กุญแจสำคัญในการดึงดูดผู้ซื้อและผู้เช่า

4. ปลอดภัย วางใจได้ในการใช้งานหลายรูปแบบ
Wallbox Supernova 150 มีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรจากการใช้กำลังไฟฟ้าเกิน และการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าในตัว เพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทั้งผู้ใช้งานและรถยนต์ นอกจากนี้ยังรองรับการยืนยันตัวตนด้วยบัตร RFID ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อควบคุมการเข้าถึงและป้องกันการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต
5. ง่ายต่อการบำรุงรักษา
สำหรับ EV Charger รุ่น Supernova 150 นี้ถูกออกแบบมาให้เอื้อต่อการบำรุงรักษา และง่ายต่อการเปลี่ยนอะไหล่ ลดเวลาการหยุดทำงานของเครื่องชาร์จที่อาจส่งผลกระทบเรื่องความต่อเนื่องในการใช้งาน

ติดตั้ง Wallbox EV Charger Supernova 150 กับ ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้ารถยนต์
การลงทุนในเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบ DC ต้องมีความมั่นใจว่าจะสามารถรองรับการใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น ซึ่งWallbox EV Charger Supernova 150 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการติดตั้งภายในบ้าน
หากคุณกำลังมองหาบริษัทผู้จัดจำหน่ายและรับติดตั้งEV Charger ให้กับบ้านและธุรกิจณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ พร้อมให้บริการทั้งด้านอุปกรณ์และคำแนะนำ เราไม่ทำเพียงแค่เสนอขายผลิตภัณฑ์จากแบรนด์คุณภาพสูง แต่ยังให้บริการด้านการปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบชาร์จที่ครบวงจร เพราะเราเข้าใจในความต้องการของลูกค้า B2B อย่างผู้รับเหมา วิศวกร เจ้าของโครงการ และนิติบุคคล รวมถึงลูกค้า B2C ที่ต้องการโซลูชันการชาร์จที่ทันสมัยและสะดวกสบาย
เราพร้อมสนับสนุนคุณในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมที่สุด ไปจนถึงการติดตั้งที่ได้มาตรฐานและการบริการหลังการขาย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการลงทุนของคุณจะคุ้มค่า ได้ประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การใช้งานจริงได้อย่างไม่มีที่ติ พร้อมเป็นพันธมิตรให้ธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
สนใจเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Wallbox EV Charger Supernova 150
1. Wallbox EV Charger Supernova 150 มีจุดเด่นด้านความเร็วในการชาร์จอย่างไร?
Wallbox Supernova 150 สามารถชาร์จแบบ DC ได้รวดเร็ว ด้วยกำลังไฟสูงสุด 150 kW ทำให้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเต็มได้ในเวลาไม่กี่นาที เหมาะสำหรับสถานีชาร์จ
2. Wallbox Supernova 150 รองรับการเชื่อมต่อแบบใดบ้าง?
Wallbox Supernova 150 รองรับการเชื่อมต่อผ่าน 4G, Ethernet และ Wi-Fi ทำให้สามารถควบคุมและตรวจสอบสถานะการชาร์จผ่านแอปพลิเคชัน myWallbox ได้
3. Wallbox Supernova 150 มีคุณสมบัติเด่นด้านความทนทานและการจัดการพลังงานอย่างไร?
Wallbox Supernova 150 มีความแข็งแรงทนทานตามมาตรฐาน IP54 และ IK10 สามารถติดตั้งได้ทั้งในและนอกอาคาร นอกจากนี้ยังมีระบบ Smart Power Management ที่ช่วยจัดการพลังงานอย่างเหมาะสม ป้องกันการใช้ไฟเกินกำลัง