
ทำไมหน้าฝนถึงเสี่ยงไฟช็อตมากกว่าฤดูอื่น?
ในช่วงหน้าฝน ความชื้นในอากาศจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสะสมของน้ำฝนตามเสาไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า หรือบริเวณที่มีสายไฟฟ้าแรงสูง สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิด “ไฟรั่ว” ได้ง่ายขึ้น หากมีจุดชำรุด รอยร้าว หรือฉนวนเสื่อมสภาพ น้ำฝนอาจกลายเป็นสื่อนำไฟฟ้า ทำให้เกิดไฟรั่วลงโครง หรือไฟช็อตที่สามารถส่งกระแสไฟฟ้ามายังวัตถุใกล้เคียงหรือแม้แต่คนที่เดินผ่านได้

รู้จัก 3 จุดเสี่ยงไฟช็อตหลักในระบบไฟฟ้าภายนอก
3 จุดเสี่ยงไฟช็อตที่ควรระวัง มีดังนี้
1. หม้อแปลงไฟฟ้า
หม้อแปลงไฟฟ้า ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้งาน เป็นส่วนสำคัญในระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมและพื้นที่อยู่อาศัย แต่ถ้าเกิดรอยรั่วซึมหรือน้ำเข้าระบบภายในหม้อแปลง อาจทำให้เกิดไฟรั่วภายนอกได้ และหากโครงหม้อแปลงไม่ต่อสายดินที่ดีพอ ก็อาจทำให้เกิดไฟรั่วลงโครง เสี่ยงไฟช็อต ได้ทุกเมื่อ
2. สายไฟฟ้าแรงสูง
สายไฟที่พาดผ่านในชุมชนส่วนใหญ่มักเป็นสายแรงสูง หากเกิดฟ้าผ่า หรือน้ำฝนสะสมบนสายไฟมากเกินไปจนฉนวนเสื่อม อาจเกิดไฟดูดได้จากระยะไกล แม้ไม่ได้สัมผัสตรงๆ เพียงแค่เดินเข้าใกล้ในระยะที่อันตรายก็มีโอกาสได้รับอันตรายไฟฟ้าแรงสูงได้เช่นกัน
3. ลูกถ้วยไฟฟ้า (Insulator)
หน้าที่ของลูกถ้วยไฟฟ้าคือเป็นฉนวนป้องกันไฟฟ้ารั่วจากสายไฟลงมาสู่เสา โดยเฉพาะในระบบแรงสูง ถ้าลูกถ้วยแตกร้าวหรือมีคราบสะสมจากฝุ่นละอองผสมความชื้น ฝนตกเพียงเล็กน้อยก็อาจกลายเป็นสื่อนำกระแสไฟ เกิด “Flashover” หรือการลัดวงจรผ่านพื้นผิวของลูกถ้วยได้ ซึ่งเสี่ยงเกิดไฟช็อตอย่างยิ่ง

5 สัญญาณเตือนระบบไฟฟ้าเสี่ยงอันตรายจากไฟช็อต
สัญญาณเตือนระบบไฟฟ้า สังเกตได้ดังนี้
1. ได้ยินเสียง “ซ่า” หรือ “เปรี๊ยะๆ” บริเวณเสาไฟ
2. เห็นประกายไฟหรือควันออกจากหม้อแปลงหรือสายไฟ
3. มีคราบเขียวหรือสนิมสะสมตามอุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง
4. หม้อแปลงหรือสายไฟมีน้ำขังบริเวณฐาน
5. สัตว์เลี้ยงหรือสิ่งของที่สัมผัสกับอุปกรณ์ไฟฟ้าแล้วมีอาการผิดปกติ
หากพบเห็นสัญญาณเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงทันที และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าตรวจสอบ
อ่านบทความที่น่าสนใจ:SNAKE GUARD และแผ่นอลูมิเนียมกันงูมีประโยชน์อย่างไร?

ทำอย่างไรให้ปลอดภัยจากไฟฟ้าแรงสูงในหน้าฝน?
วิธีป้องกันภัยจากไฟฟ้าแรงสูง มีดังนี้
- อย่าเดินเข้าใกล้หม้อแปลงไฟฟ้าหรือเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยเฉพาะหลังฝนตกใหม่ๆ
- ไม่สัมผัสสายไฟที่ตกลงมาบนพื้นเด็ดขาด แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีไฟ
- ไม่พยุงหรือจับรั้วเหล็ก ป้ายโลหะ หรือโครงสร้างที่อยู่ใกล้เสาไฟ เพราะอาจมีไฟรั่วลงโครง
- หากต้องทำงานใกล้ระบบไฟฟ้าในหน้าฝน ควรสวมรองเท้ายาง และใช้อุปกรณ์ป้องกันที่ได้มาตรฐาน
- ติดตั้งระบบตัดไฟรั่วภายในบ้าน เช่นRCD (Residual Current Device) เพื่อป้องกันไฟดูดจากภายใน
ทั้งหมดนี้ถือเป็นเทคนิคป้องกันอันตรายช่วงหน้าฝน ที่ทุกคนสามารถนำไปทำตามกันได้ง่าย ๆ

ไฟช็อตอันตรายแค่ไหน?
ไฟช็อตมีความอันตรายถึงชีวิต ดังนี้
- กระแสไฟฟ้าเพียง 30 มิลลิแอมป์ ก็สามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ภายในไม่กี่วินาที
- ถ้าโดนช็อตจากระบบแรงสูง เช่นจากสายไฟฟ้าแรงสูงหรือหม้อแปลง อาจเกิดบาดแผลไหม้ลึก หรือเสียชีวิตทันที
- หลายกรณีไม่ได้เสียชีวิตจากการสัมผัสตรง แต่เกิดจาก “ไฟรั่วลงโครง” แล้วคนไปสัมผัสกับวัตถุนั้นโดยไม่รู้ตัว
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน

ความรู้ไฟฟ้าเบื้องต้นที่ทุกคนควรมี
ในชีวิตประจำวัน เราอาศัยไฟฟ้าแทบทุกวินาที ไม่ว่าจะชาร์จโทรศัพท์ เปิดแอร์ หรือต้มน้ำร้อน แต่หลายคนกลับมองข้าม “ความรู้ไฟฟ้าเบื้องต้น” ที่อาจเป็นเกราะป้องกันอันตรายให้คุณและคนในบ้านได้อย่างไม่คาดคิด โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ความเสี่ยงจากไฟช็อตเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
สิ่งแรกที่ควรรู้คือตำแหน่งของเบรกเกอร์หลักในบ้าน และเข้าใจว่าควรตัดระบบเมื่อใด เช่น เมื่อมีน้ำรั่วจากหลังคาใกล้สายไฟ หรือเมื่อเกิดกลิ่นไหม้จากปลั๊กพ่วง นอกจากนี้ควรรู้จักวิธีใช้ปลั๊กอย่างปลอดภัย เช่น หลีกเลี่ยงการเสียบปลั๊กในพื้นที่เปียก ใช้ปลั๊กที่มีสายดิน และไม่เสียบปลั๊กพ่วงซ้อนกันหลายชั้น
การตรวจสอบสายไฟ ปลั๊ก และอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ เช่น สายไฟที่เริ่มกรอบ แตก หรือมีรอยไหม้ ควรเปลี่ยนทันที อย่าปล่อยให้สิ่งเล็ก ๆ กลายเป็นภัยใหญ่
สิ่งสำคัญที่สุดคือ “อย่าประมาท” กับไฟฟ้า ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน เพราะอุบัติเหตุจากไฟฟ้าอย่าง ไฟช็อต ไฟดูด หรือไฟรั่ว มักเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว และหลายครั้งอาจถึงขั้นเสียชีวิต

มั่นใจปลอดภัยทุกสภาพอากาศ หมดกังวลไฟช็อต เลือกณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์อุปกรณ์ได้มาตรฐาน ใช้งานได้ยาวนาน!
วางใจเรื่องระบบไฟฟ้า เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้า การออกแบบ และติดตั้งระบบไฟฟ้ามาตรฐานอุตสาหกรรม ทั้งตู้ MDB, เบรกเกอร์, สายไฟ, หรือตู้คอนโทรล ทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบ ปลอดภัย ลดความเสี่ยงไฟช็อต ใช้งานได้ยาวนานแม้ในสภาพอากาศแปรปรวน
ทีมวิศวกรมืออาชีพพร้อมดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ครอบคลุมทั้งบ้าน อาคาร โรงงาน และโครงการขนาดใหญ่ได้ทั้งเรื่องความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และบริการหลังการขายระดับมืออาชีพ
สนใจสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือบริการติดตั้งติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร083-424-6999 และแอดไลน์@npeq
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอันตรายจากไฟฟ้าช่วงหน้าฝน
1. ทำไมช่วงหน้าฝนจึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟช็อตและอันตรายจากไฟฟ้ามากขึ้น?
ในช่วงหน้าฝน น้ำและความชื้นเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี ทำให้มีโอกาสเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟรั่ว หรือไฟดูดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกอาคาร เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า สายส่ง และลูกถ้วยไฟฟ้า
2. มีวิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูงในที่สาธารณะช่วงหน้าฝนอย่างไรบ้าง?
ในที่สาธารณะช่วงหน้าฝน ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เสาไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าขณะฝนตกหรือน้ำท่วม, ห้ามสัมผัสเสาไฟฟ้าที่เปียก, ไม่เดินลุยน้ำที่มีสายไฟขาด และห้ามแตะต้องสายไฟที่ขาดหรือตกถึงพื้นเด็ดขาด
3. เจ้าของบ้านหรืออาคารควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านอย่างไรเพื่อป้องกันไฟช็อตช่วงหน้าฝน?
เจ้าของบ้านหรืออาคารควรตรวจสอบระบบสายดิน, เบรกเกอร์ควบคุมไฟฟ้า, และอุปกรณ์ตัดกระแสไฟฟ้ารั่ว (RCD/RCBO) ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมถึงตรวจสอบสายไฟภายนอกอาคารว่าไม่มีรอยชำรุด และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยมือที่เปียก