
ทบทวนประเภทอินเวอร์เตอร์เบื้องต้น ก่อนเข้าสู่ Checklist
ก่อนที่จะไปทำการเลือกอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ มาทำความรู้จักกันก่อนว่าอินเวอร์เตอร์ (Inverter) มีกี่ประเภท อะไรบ้าง และแต่ละประเภทมีระบบการทำงานอย่างไร
String Inverter
String Inverter คือ อินเวอร์เตอร์ที่ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC)ที่ผลิตได้จากแผงโซล่าเซลล์หลาย ๆ แผงที่ต่อกันในรูปแบบ สตริง (String) หรืออนุกรม ให้กลายเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่สามารถนำมาใช้ในบ้าน หรือส่งขายเข้าระบบของการไฟฟ้าได้ในจุดเดียว เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยและอาคารที่ไม่มีเงาบดบัง
Hybrid Inverter
Hybrid Inverter คืออินเวอร์เตอร์ที่มีฟังก์ชันการแปลงไฟฟ้า และชาร์จไฟในเครื่องเดียว ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ได้ทันที และสำรองพลังงานไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉินได้ เหมาะกับระบบโซล่าเซลล์ที่ต้องการติดตั้งแบตเตอรี่เพื่อสำรองไฟ
Microinverter
Microinverter คืออินเวอร์เตอร์ที่มีขนาดเล็กอยู่ใต้แผงโซล่าเซลล์แต่ละแผง ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้า ทำให้การทำงานของแต่ละแผงเป็นอิสระต่อกัน ช่วยให้ระบบยังคงผลิตไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีโซล่าเซลล์บางแผงถูกสิ่งสกปรกหรือเงาบดบังแสง
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : Micro, String, Smart Inverter ต่างกันยังไง แบบไหนดีกับโซล่าเซลล์?
Checklist! 7 ปัจจัยที่ต้องเช็ค ก่อนตัดสินใจเลือกซื้ออินเวอร์เตอร์
ก่อนการเลือกซื้ออินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ ควรพิจารณาจาก 7 ปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ขนาดกำลังไฟ (kW) ที่เหมาะสม
ในการใช้อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ให้มีประสิทธิภาพ ควรที่จะมีการคำนวณขนาดกำลังไฟให้เหมาะสมกับอินเวอร์เตอร์ โดยจะคำนวณด้วยการนำกำลังผลิตรวมของแผงโซล่าเซลล์ (DC) และขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าในบ้าน ซึ่งมีหลักการดังนี้
- กำลังผลิตรวมของโซล่าเซลล์ ควรใหญ่กว่าอินเวอร์เตอร์ประมาณ 20-30% เสมอ
- ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับอินเวอร์เตอร์ขนาด 5 kW คือ มิเตอร์ 15(45) A ส่วนอินเวอร์เตอร์ขนาด 10 kW จะเหมาะกับมิเตอร์ขนาด 30(100) A
เพื่อความมั่นใจในการเลือกอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ที่เหมาะสมที่สุด ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ ยินดีช่วยคำนวณและออกแบบขนาดอินเวอร์เตอร์ เพื่อให้ระบบโซล่าเซลล์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. ประสิทธิภาพการแปลงไฟ (Efficiency)
การเลือกอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ ควรตรวจสอบจากค่า Max Efficiency ซึ่งจะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการแปลงไฟสูงสุด และค่าพลังงานที่สูญเสียไปในกระบวนการแปลงไฟ
ตัวอย่างเช่น อินเวอร์เตอร์มีค่า Max Efficiency 98.6% เมื่อนำไปลบกับ 100 จะได้ตัวเลข 1.4% ซึ่ง 1.4% นี้คือพลังงานที่เสียไปในกระบวนการแปลงไฟ ซึ่งถือว่าน้อยมาก ดังนั้น ยิ่งค่า Max Efficiency สูง ก็แสดงว่าอินเวอร์เตอร์นั้นมีประสิทธิภาพการแปลงไฟสูงนั่นเอง
3. ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Smart Features)
อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ที่คุ้มค่าแก่การลงทุน คืออินเวอร์เตอร์อัจฉริยะ (Smart Inverter) ที่มีฟังก์ชันในการมอนิเตอร์การทำงานของแผงโซล่าเซลล์แบบ Real-timeโดยสามารถตรวจสอบการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชัน มีระบบแจ้งเตือนความปลอดภัย และมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างต่อเนื่อง
โดยอินเวอร์เตอร์ยุคใหม่อย่าง Huawei มีฟังก์ชัน ‘Smart I-V Curve Diagnosis’ที่สามารถสแกนหาความผิดปกติของแผงโซล่าเซลล์แต่ละแผงได้จากระยะไกล ช่วยให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
4. มาตรฐานการป้องกัน (IP Rating)
อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ที่ดี ควรได้มาตรฐาน IP65 หรือ IP66 ซึ่งเป็นมาตรฐานในการป้องกันฝุ่นและน้ำ เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยที่มีลักษณะร้อนชื้น และมักจะมีฝนตกชุกอยู่บ่อย ๆ มาตรฐานเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่า อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ที่ลงทุนติดตั้งจะใช้งานได้นาน และยังคงประสิทธิภาพได้ดีแม้ในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ
5. การรับประกันและบริการหลังการขาย
ควรเลือกซื้ออินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์จากบริษัทที่มีการรับประกันอย่างต่ำ 5-10 ปีและมีบริการหลังการขาย รวมถึงเลือกแบรนด์อินเวอร์เตอร์ที่มีศูนย์บริการในประเทศหลากหลายแห่งที่ติดต่อได้ง่าย เพื่อความสะดวกเมื่อเกิดปัญหา
6. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ (Brand Reputation)
ควรเลือกแบรนด์อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ชั้นนำระดับโลก หรือได้รับการรับรองในมาตรฐาน Tier 1 ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าบริษัทมีการลงทุนด้าน R&D และมีความมั่นคงทางการเงิน ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและนวัตกรรม
โดยอินเวอร์เตอร์จาก Huawei และ Soleplanet เป็นตัวอย่างของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่ง ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ ได้คัดสรรมาให้ลูกค้าของเรา พร้อมให้คำปรึกษาและติดตั้งอินเวอร์เตอร์ และรับประกันจากศูนย์บริการในประเทศไทย เพื่อให้ระบบโซล่าเซลล์ของคุณทำงานได้อย่างเสถียรภาพ ไร้กังวลตลอดอายุการใช้งาน
7. ผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้ (Authorized Distributor)
ปัจจัยข้อสุดท้ายที่ควรคำนึงและพิจารณา คือการเลือกซื้ออินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์จากผู้แทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้โดยการเลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อย่าง ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ จะช่วยให้มั่นใจได้ 100% ว่าจะได้รับสินค้าของแท้ สินค้ามีการรับประกันเต็มรูปแบบจากผู้ผลิตโดยตรง และได้คำแนะนำที่ถูกต้องจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี
ตารางเปรียบเทียบอินเวอร์เตอร์รุ่นยอดนิยมปี 2568 ที่น่าสนใจ
สำหรับใครที่กำลังมองหาอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ เราได้สรุปมาเป็นตารางเปรียบเทียบ Inverter รุ่นยอดนิยมปี 2568มาให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมแนะนำว่ารุ่นไหนเหมาะกับใช้งานในพื้นที่แบบใดอีกด้วย
| หัวข้อ | Solplanet ASW 5K S-G2 | Solplanet 3-6K beast pro ASW 3000H-S2 ~ 6000H-S2 blue | Solplanet ASW 10K-LT-G2 Pro | Solplanet ASW 05-12kW H-T2T3 Series |
| รุ่น (Model) | ASW 5000-S-G2 | ASW 3000H-S2 ถึง ASW 6000H-S2 | ASW 10K-LT-G2 Pro | ASW 5kH-T2 ถึง ASW 12kH-T3 |
| ประเภท (Type) | On-Grid (ออนกริด 1 เฟส) | Hybrid (ไฮบริด 1 เฟส) | On-Grid (ออนกริด 3 เฟส) | Hybrid (ไฮบริด 3 เฟส) |
| กำลังไฟ (kW) | 5 kW | 3 kW / 3.68 kW / 4 kW / 5 kW / 6 kW | 10 kW | 5 kW / 8 kW / 10 kW / 12 kW |
| Max Efficiency | 97.8% | 97.6% | 98.6% | 98.4% |
| ฟีเจอร์เด่น | • 2 MPPT • รองรับการต่อแผงเกินขนาด (DC Oversizing) ได้ถึง 150% • มีฟังก์ชันจัดการเงาอัจฉริยะ (ShadeSol) • กันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP66 • ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา | • สำรองไฟได้ (UPS) สลับโหมดได้รวดเร็ว <10 ms • 2 MPPT • ทำงานเงียบ ระบายความร้อนแบบธรรมชาติ • กันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP66 • จัดการพลังงานอัจฉริยะ (EMS) ผ่านแอปพลิเคชัน | • 2 MPP • รองรับกระแสไฟเข้าสูง (16A) ใช้กับแผงรุ่นใหม่ได้ดี • รองรับการต่อแผงเกินขนาด (DC Oversizing) ได้ถึง 150% • มีฟังก์ชันจัดการเงาอัจฉริยะ (ShadeSol) • กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP66 | • สำรองไฟได้ (UPS) สลับโหมดเร็ว <10 ms • มี 2 หรือ 3 MPPT (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) • รองรับการจ่ายไฟแบบไม่สมดุล (100% unbalanced output) • กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP66 • จัดการพลังงานอัจฉริยะ (EMS) และตั้งค่าแบตเตอรี่ได้ละเอียด |
| เหมาะสำหรับ | บ้านพักอาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเยอะช่วงกลางวัน ต้องการลดค่าไฟเป็นหลัก | บ้านพักอาศัยที่ต้องการ ลดค่าไฟ และมีไฟสำรองใช้เวลาฉุกเฉิน | บ้านขนาดใหญ่ อาคารพาณิชย์ หรือโรงงานขนาดเล็ก ที่ใช้ไฟฟ้า 3 เฟส และต้องการลดค่าไฟในช่วงกลางวัน | บ้านขนาดใหญ่ อาคารพาณิชย์ หรือโรงงานขนาดเล็กที่ใช้ไฟฟ้า 3 เฟส ต้องการลดค่าไฟ และความมั่นคงด้านพลังงาน ต้องการมีไฟสำรองใช้ตลอดเวลา |

เลือกอินเวอร์เตอร์ที่ใช่ ได้ระบบโซล่าเซลล์คุณภาพ
การเลือกอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ที่ถูกต้อง ควรพิจารณาเลือกจากปัจจัยทั้ง 7 ข้อที่ได้กล่าวมา ไม่ใช่เพียงแต่พิจารณาด้านราคาเพียงเท่านั้น เพราะจะเป็นการกำหนดคุณภาพและประสิทธิภาพของระบบโซล่าเซลล์ได้ การพิจารณาปัจจัยสำคัญและการเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความคุ้มค่าของการลงทุนในระยะยาว
ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ปรึกษาของคุณในการเลือกอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ ด้วยการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก มาพร้อมการรับประกันเต็มรูปแบบ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงสุดจากโซลูชันพลังงานสะอาด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเรา หรือโทร 083-424-6999 และสามารถแอดไลน์ได้ที่ @npeq
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกซื้ออินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ (FAQ)
1. ควรเลือกรุ่นอินเวอร์เตอร์ที่มีกำลังไฟฟ้า (kW) เท่ากับแผงโซล่าเซลล์หรือไม่?
ควรเลือกอินเวอร์เตอร์ที่มีกำลังน้อยกว่า กำลังการผลิตไฟฟ้าของแผงโซล่าเซลล์ (DC) เล็กน้อย เพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพในวันที่สภาพอากาศเหมาะสมที่สุด โดยไม่ทำให้อินเวอร์เตอร์ทำงานหนักจนเกินไป
2. อินเวอร์เตอร์ราคาถูกกับราคาแพง แตกต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างจะอยู่ที่ ประสิทธิภาพการแปลงไฟ (Efficiency)ฟังก์ชันการใช้งาน การรับประกัน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ซึ่งอินเวอร์เตอร์ที่มีราคาแพงกว่ามักจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า มีฟีเจอร์ที่ครบครันกว่า และมีการรับประกันที่ยาวนานกว่า ทำให้คุ้มค่าในระยะยาว
3. มีวิธีการดูแลรักษาอินเวอร์เตอร์อย่างไร เพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนาน?
การดูแลรักษาที่สำคัญที่สุดคือ การ ติดตั้งในพื้นที่ที่เหมาะสม มีการระบายอากาศที่ดี ไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือความร้อนสูง และควรทำความสะอาดฝุ่นละอองที่เกาะอยู่เป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องเป็นประจำผ่านแอปพลิเคชันหรือหน้าจอแสดงผล เพื่อตรวจจับความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ