5 ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนโซล่าฟาร์มต้องพิจารณาก่อนเริ่มติดตั้ง
หากคุณเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ต้องการลงทุนกับโซล่าฟาร์ม ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนโซล่าเซลล์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เรามาดู 5 ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนลงทุนโซล่าฟาร์มกันว่าจะมีอะไรบ้าง

ขนาดที่ดินและทำเลที่ตั้ง
ปัจจัยแรกที่แน่นอนว่ามีผลต่อการติดตั้งโซล่าฟาร์ม คือ ขนาดที่ดินและทำเลที่ตั้งเพราะถ้าหากไม่ทราบว่าพื้นที่ที่จะทำการติดตั้งโซล่าฟาร์มนั้นมีขนาดเท่าไหร่ ก็อาจทำให้การคำนวณโซล่าเซลล์ผิดพลาด และคำนวณงบประมาณไม่ถูกต้องได้
หากยังไม่เห็นภาพ มาดูตัวอย่างกันดีกว่าว่าโซล่าฟาร์ม 1 MW ใช้พื้นที่กี่ไร่
โดยทั่วไปแล้ว โซล่าฟาร์ม 1 MW (เมกะวัตต์) จะใช้พื้นที่ประมาณ 10-15 ไร่ซึ่งก็สามารถให้ปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ควรคำนวณให้แน่ชัดว่าธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่จะทำการลงทุนโซล่าฟาร์มนั้นมีการต้องการใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้เตรียมพื้นที่ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
นอกจากนี้ยังควรเลือกติดตั้งบนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเงาบดบังน้อย เป็นพื้นที่ราบ โปร่ง เข้าถึงได้ง่าย รับแสงแดดได้เต็มที่ เพื่อให้แผงโซล่าเซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เหมาะสมกับความต้องการ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง และสะดวกต่อการเข้าไปดูแลบำรุงรักษาด้วย
งบประมาณการลงทุนเบื้องต้น
สำหรับการติดตั้งโซล่าฟาร์มอย่างเดียวบนพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เงินทุนประมาณ 30-35 ล้านบาทขึ้นอยู่กับคุณภาพและประเภทของโซล่าเซลล์ ทั้งนี้ ยังไม่รวมค่าติดตั้ง และค่าดำเนินการขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์ แต่ถ้าหากไม่มีพื้นที่สำหรับติดตั้ง ก็จะมีค่าใช้จ่ายต้นทุนในเรื่องของการซื้อที่ดินมาเพิ่มอีกด้วย
กฎหมายและใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง
การติดตั้งโซล่าเซลล์ แม้ในพื้นที่ขนาดเล็กและมีความเป็นส่วนตัวอย่างครัวเรือนทั่วไป ก็ต้องขออนุญาตกับทางการไฟฟ้าดังนั้น ยิ่งเป็นโครงการโซล่าฟาร์มขนาดใหญ่ ก็ต้องทำการดำเนินการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) รวมถึงยื่นเอกสารใบอนุญาตให้กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ด้วยเช่นกัน
การเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้า
ปัจจัยข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่ไม่ควรมองข้าม เพราะระยะห่างระหว่างจุดเชื่อมต่อกับสายส่งของการไฟฟ้าในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าฟาร์ม ก็มีผลต่อต้นทุนเช่นเดียวกัน ดังนั้น หากจุดเชื่อมต่อใกล้กับสายส่งของการไฟฟ้า ก็จะส่งผลดีต่อการจัดการเงินต้นทุนมากกว่า
ทีมงานและผู้เชี่ยวชาญ
ปัจจัยข้อสุดท้ายที่ควรพิจารณาก่อนลงทุนโซล่าฟาร์มคือ การเลือกใช้ทีมงานช่างและวิศวกร ที่ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ โดยควรเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการติดตั้งโซล่าเซลล์โดยเฉพาะ สามารถให้คำแนะนำได้อย่างเชี่ยวชาญ ติดตั้งด้วยอุปกรณ์คุณภาพ และมีบริการหลังการขายที่ดี เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจว่า หากลงทุนไปแล้ว จะได้รับการดูแลอย่างครอบคลุม มีการบำรุงรักษาเป็นระยะ ช่วยคงประสิทธิภาพของโซล่าฟาร์ม และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนั่นเอง

7 ขั้นตอนการสร้างโซล่าฟาร์มฉบับสมบูรณ์
การลงทุนติดตั้งโซล่าฟาร์มให้งบไม่บานปลาย ได้งานคุณภาพ ควรทำตาม 7 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 : ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
อันดับแรก ควรเริ่มจากการประเมินความคุ้มค่าในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินลงทุน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) และการสำรวจพื้นที่ที่จะทำการติดตั้งโซล่าฟาร์ม หากพื้นที่มีขนาดไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าของอุตสาหกรรม ก็อาจต้องพิจารณาหาพื้นที่ใหม่ หรือซื้อที่ดินเพิ่ม เพื่อให้ตอบโจทย์เหมาะสมกับความต้องการ และไม่ให้เป็นการลงทุนโดยเสียเปล่า
ขั้นตอนที่ 2 : การออกแบบทางวิศวกรรม
ขั้นตอนถัดมา คือ การออกแบบและวางระบบไฟฟ้า เนื่องจากโซล่าฟาร์มจะกลายเป็นขุมพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ การจัดวาง Layout ของแผงโซล่าเซลล์แต่ละแผง การคำนวณโครงสร้างทางไฟฟ้า และการออกแบบระบบไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ในส่วนนี้ควรให้วิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์เป็นผู้ดำเนินการให้
ขั้นตอนที่ 3 : การขอใบอนุญาต
หลังจากวางระบบไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ให้นำแบบแปลนไฟฟ้าที่ได้ไป ยื่นขอใบอนุญาตติดตั้งกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ โดยเอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่
- เอกสาร แบบ อ.1
- ใบอนุญาตขนานไฟฟ้า
- เอกสารที่แสดงคุณสมบัติของอุปกรณ์
- แบบแปลนไฟฟ้า
- แบบแผนภูมิระบบ (Single Line Diagram)
- เอกสารที่แสดงข้อมูลส่วนตัวของผู้ดำเนินการขออนุญาต
- ใบมอบอำนาจ (กรณีให้ผู้อื่นทำแทน)
- ใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร (ถ้ามี)
เมื่อได้รับการอนุญาตแล้ว จึงจะสามารถเริ่มดำเนินการติดตั้งโซล่าฟาร์มได้ นอกจากนี้หากมีจุดประสงค์ในการขายคืนไฟฟ้า จะต้องทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าด้วย
ขั้นตอนที่ 4 : การจัดหาอุปกรณ์คุณภาพสูง
ในส่วนของการใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพนั้น หากเลือกใช้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์กับบริษัท หรือซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ทำงานด้านระบบพลังงานสะอาด ก็จะเป็นการการันตีในระดับหนึ่งว่าอุปกรณ์ที่ใช้จะได้มาตรฐาน ได้ประสิทธิภาพสูง มีอายุการใช้งานนาน รวมถึงให้คำแนะนำเรื่องการใช้Inverter โซล่าเซลล์ เสริมอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้การลงทุนนั้นคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 5 : การก่อสร้างและติดตั้ง
เมื่อมีอุปกรณ์ทุกอย่างและได้รับการอนุญาตติดตั้งจากหน่วยงานแล้ว ขั้นตอนถัดมาก็สามารถ เริ่มต้นดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งโซล่าฟาร์มได้เลย ซึ่งผู้ให้บริการติดตั้งจะเริ่มที่การปรับพื้นที่ จากนั้นจึงจะวางโครงสร้างและวางระบบไฟฟ้าตามแบบที่ได้วางแผนไว้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน แนะนำว่าหากเป็นผู้ให้บริการที่ดี จะมีการอัปเดตความคืบหน้าอยู่เสมอ เพื่อให้ทราบว่าการดำเนินงานเสร็จสิ้นไปถึงขั้นตอนใดแล้วบ้าง
ขั้นตอนที่ 6 : การทดสอบและเชื่อมต่อระบบ
เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว การทดสอบระบบก่อนการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ทราบว่างานติดตั้งนั้นปลอดภัยรัดกุมดีหรือไม่ มีจุดไหนที่ควรแก้ไข และจุดไหนที่ต้องทำการซ่อมแซม
ขั้นตอนที่ 7 : การดำเนินงานและบำรุงรักษา
ขั้นตอนนี้อาจไม่ใช่ขั้นตอนที่ต้องทำตั้งแต่เริ่มติดตั้งโซล่าฟาร์ม แต่เป็นขั้นตอนที่ ต้องทำสม่ำเสมอเพื่อบำรุงรักษาแผงโซล่าเซลล์ให้เต็มประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน ยิ่งมีการดูแลบำรุงรักษาดี อายุการใช้งานของโซล่าฟาร์มก็จะมากขึ้นเกินค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปได้
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในระบบโซล่าฟาร์มมีอะไรบ้าง?
เพื่อไม่ให้การลงทุนโซล่าฟาร์มผิดพลาด มาดูกันว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่โครงการโซล่าฟาร์มต้องมีนั้น ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ใดบ้าง

แผงโซล่าเซลล์
แน่นอนว่าองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ แผงโซล่าเซลล์ เพราะเป็นอุปกรณ์หลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยในการเลือกลงทุนกับโซล่าเซลล์นั้น ควรเลือกจากแบรนด์ที่สามารถการันตีได้ถึงประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้า และมีความทนทานอายุการใช้งานนาน คุ้มค่าแก่การลงทุน
ซึ่งแผงโซล่าเซลล์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล คือ โซล่าเซลล์ JA Solar ที่ทางณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ มีจำหน่าย โดยนอกจากจะโด่งดังในเรื่องของประสิทธิภาพที่ดีแล้ว ยังถูกจัดให้เป็นโซล่าเซลล์ Tier 1 ซึ่งเป็นการจัดอันดับที่อิงจากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการผลิต ความมั่นคงทางการเงินของบริษัทผู้ผลิต และมั่นใจในคุณภาพจากการผลิตในโรงงานของตัวเอง ไม่ได้ใช้บริการ OEM ผลิตให้ จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ในโครงการโซล่าฟาร์มที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : เปรียบเทียบแผงโซล่าเซลล์ Tier 1, Tier 2, Tier 3 ต่างกันอย่างไร?

อินเวอร์เตอร์
อินเวอร์เตอร์ โซล่าเซลล์ เป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการแปลงกระแสไฟฟ้าซึ่งหากต้องการให้โซล่าฟาร์มผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรเลือกใช้เป็น อินเวอร์เตอร์อัจฉริยะ (Smart Inverter) ที่สามารถปรับแต่งการใช้และผลิตพลังงานไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ ทั้งนี้ ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลในการผลิตกระแสไฟฟ้า และตรวจสอบการผลิตไฟฟ้าได้แบบ Real-Time อีกด้วย
โดย Smart Inverter ที่แนะนำในการนำไปติดต้้งกับระบบโซล่าฟาร์ม คือ อินเวอร์เตอร์อัจฉริยะจากแบรนด์ Huaweiซึ่งมีประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานสูงถึง 98.7% ด้วยระบบตรวจสอบอัจฉริยะ 8 Strings ใช้งานโซล่าเซลล์ได้อย่างปลอดภัยจากอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากชนิด III จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถเสริมการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โครงสร้างรองรับแผงโซล่าเซลล์
โครงสร้างรองรับแผง หรือแผงสำหรับจับยืดโซล่าเซลล์ เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนอาจมองข้าม เพราะโดยทั่วไปแล้วโซล่าเซลล์จะถูกติดตั้งบนหลังคา แต่สำหรับโซล่าฟาร์มที่เป็นการติดตั้งบนพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องมีโครงสร้างรองรับแผงมารองรับ โดยควรเลือกรางยึดที่ทำจากวัสดุแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ เพื่อให้มั่นใจว่าจะใช้งานได้ยาวนาน ไม่ผุพังง่ายแม้ในวันที่สภาพอากาศแปรปรวน
หม้อแปลงไฟฟ้า
เนื่องจากแผงโซล่าเซลล์จะผลิตกระแสไฟฟ้าในรูปแบบของ ไฟฟ้ากระแสตรง (DC)แต่ในการนำมาใช้งานนั้นจะเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จึงจำเป็นต้องมี หม้อแปลงไฟฟ้าเพื่อปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมก่อนส่งเข้าระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และเพื่อเป็นการลดต้นทุนรวมถึงระยะเวลาในการส่งไฟฟ้าเข้าหม้อแปลงของการไฟฟ้าส่วนกลางอีกด้วย
สำหรับผู้ที่มองหาหม้อแปลงไฟฟ้าคุณภาพ ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ เป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าจากแบรนด์ เจริญชัย (Charoenchai) แบรนด์คุณภาพที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล เราพร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และคำนวณสเปกหม้อแปลงที่เหมาะสมกับโครงการโซล่าฟาร์มของคุณมากที่สุด พร้อมการรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย ให้คุณมั่นใจว่าสินค้าที่ได้รับจะมีคุณภาพ และใช้งานได้อย่างเหมาะสม
ระบบติดตามและควบคุม
ระบบติดตามและควบคุม เป็นองค์ประกอบที่จะช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของแผงโซล่าเซลล์และแจ้งเตือนปัญหาที่พบแบบ Real-Time ซึ่ง Smart Inverter จาก Huawei นั้นก็มีฟีเจอร์ตรวจสอบการทำงานของแผงโซล่าเซลล์แต่ละแผง หรือถ้าต้องการความแม่นยำมากขึ้น ก็สามารถเลือกเป็นSmart Power Sensorที่จะช่วยตรวจวัดข้อมูลการใช้พลังงานได้แบบเรียลไทม์เช่นกัน
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : Smart Power Sensor คืออะไร? ทำไมควรติดตั้งในระบบโซล่าเซลล์?

โซล่าฟาร์ม 1 ไร่ ใช้งบเท่าไหร่? ทำความเข้าใจปัจจัยแต่ละด้านเพื่อผลตอบแทนในการลงทุน
ในการลงทุนสร้างโครงการโซล่าฟาร์มนั้น นอกจากต้นทุนที่สามารถมองเห็นได้เป็นตัวเลขอย่างชัดเจนแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่จะส่งผลต่อผลตอบแทนที่จะได้รับ รวมถึงระยะเวลาในการคืนทุนด้วยเช่นกัน โดยปัจจัยโครงสร้างต้นทุนที่ควรทราบ มีดังนี้
โครงสร้างต้นทุน
ต้นทุนในการทำโซล่าฟาร์ม จะแบ่งเป็นต้นทุนแรกเริ่มที่เห็นเป็นตัวเลขชัดเจนครั้งเดียว (CAPEX)และต้นทุนแฝง/ต้นทุนระยะยาว (OPEX) ซึ่งแต่ละประเภทจะประกอบไปด้วยรายละเอียดดังนี้
ต้นทุน CAPEX
- ค่าแผงโซล่าเซลล์
- ค่าอุปกรณ์เสริม
- ค่าบริการติดตั้งโซล่าเซลล์
- ค่าที่ดิน (ซึ่งควรรวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายด้วย เช่น ค่าโอนที่ดิน ค่าบริการเจ้าหน้าที่)
ต้นทุน OPEX
- ค่าบำรุงรักษา (Maintenance)
- ค่าประกันภัยอุปกรณ์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลตอบแทน (ROI Factors)
นอกจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อผลตอบแทน (ROI Factors)ของการติดตั้งโซล่าฟาร์มอีกด้วย ดังนี้
- การขายไฟฟ้าคืนให้ภาครัฐ (FiT)
- โอกาสของธุรกิจจากการลด Carbon Credits
- อัตราค่าไฟฟ้าที่ลดลงแต่ละเดือน/รายปี (Self-Consumption)
ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ จะถูกนำไปคำนวณจุดคุ้มทุน และทำให้ทราบระยะเวลาคืนทุนโดยประมาณได้ ส่งผลให้การวางแผนค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : โซล่าฟาร์มเพื่อการเกษตร (Agrivoltaics) ทางออกใหม่เกษตรกรไทย สร้างรายได้ 2 ทางในพื้นที่เดียว
ระยะเวลาคืนทุนโดยประมาณ
สำหรับโครงการโซล่าฟาร์มในประเทศไทย ระยะเวลาคืนทุนโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 5-8 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการผลิตกระแสไฟฟ้า ปริมาณที่ผลิตได้ และความต้องการใช้ไฟฟ้าของแต่ละอุตสาหกรรม

เลือกณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ เป็นพาร์ทเนอร์โครงการโซล่าฟาร์มของคุณ
โซล่าฟาร์ม เป็นโครงการโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งในพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อจุดประสงค์ในการผลิตพลังงานในปริมาณมาก มักจะติดตั้งในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเป็นการสร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนพลังงานสะอาดในอนาคต
ในการทำโซล่าฟาร์ม ควรเลือกติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่ได้คุณภาพ รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อความคุ้มค่า และการเพิ่มประสิทธิภาพของโซล่าเซลล์อย่างสูงสุด หากคุณเป็นหนึ่งคนที่มองหาอุปกรณ์เพื่อทำโซล่าฟาร์ม เลือก ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ เป็นพาร์ทเนอร์ด้านพลังงานสะอาด โดยเราให้บริการจำหน่ายแผงโซล่าเซลล์จาก JA Solarและอุปกรณ์เสริมจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Huawei เราพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าสูงสุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเรา หรือโทร 083-424-6999 และสามารถแอดไลน์ได้ที่ @npeq
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสร้างโซล่าฟาร์ม (FAQ)
1. การลงทุนสร้างโซล่าฟาร์มใช้เงินเท่าไหร่ และจะคืนทุนเมื่อไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนโซล่าฟาร์ม จะขึ้นอยู่กับ ขนาดโครงการ (kWp/MWp) และ คุณภาพอุปกรณ์ โดยจะอยู่ที่หลักสิบล้านบาทต่อเมกะวัตต์ (MW)ระยะเวลาคืนทุนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-8 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าที่ขายได้ และประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของโซล่าฟาร์ม
2. มีพื้นที่น้อยสามารถสร้างโซล่าฟาร์มได้หรือไม่ และต้องเตรียมพื้นที่อย่างไร?
สามารถสร้างได้ แต่ผลตอบแทนอาจไม่คุ้มค่า เพราะโดยทั่วไปการทำโซล่าฟาร์มาควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้งโซล่าฟาร์มขนาด 1 MW ขึ้นไป ซึ่งจะใช้พื้นที่ประมาณ 10-15 ไร่
ในส่วนของการเตรียมพื้นที่ ต้องมีการปรับหน้าดินให้เรียบเสมอกัน เพื่อให้โครงสร้างฐานยึดโซล่าเซลล์มีความมั่นคง และง่ายต่อการบำรุงรักษา
3. แผงโซล่าเซลล์และอุปกรณ์หลักต่าง ๆ มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?
แผงโซล่าเซลล์มีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งจะมีการรับประกันประสิทธิภาพการผลิตไฟที่ประมาณ 80% ส่วนอินเวอร์เตอร์ (Inverter) จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี และต้องมีการเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์
4. หากไม่มีความรู้เรื่องโซล่าเซลล์เลย จะเริ่มต้นสร้างโซล่าฟาร์มได้หรือไม่?
สามารถสร้างโซล่าฟาร์มได้ แต่ควรเลือกใช้บริการผู้ให้บริการติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการติดตั้งโซล่าเซลล์ในพื้นที่ขนาดใหญ่