หม้อแปลงไฟฟ้า คืออะไร?
หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงระดับแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากวงจรหนึ่งไปยังอีกวงจรหนึ่งอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้สามารถเพิ่ม (Step-up) หรือลด (Step-down) ระดับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานในระบบต่าง ๆ ได้
ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไปยังผู้ใช้งานปลายทางได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการส่งไฟฟ้าระยะไกลที่ต้องการแรงดันสูงเพื่อลดการสูญเสียพลังงาน หรือการลดแรงดันไฟฟ้าลงเพื่อจ่ายให้กับบ้านเรือน อาคาร หรือโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างปลอดภัย
ประเภทของหม้อแปลงไฟฟ้า
หม้อแปลงไฟฟ้าสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งาน โครงสร้าง หรือฉนวนที่ใช้ ดังนี้
1. แบ่งตามระบบเฟสไฟฟ้า
หม้อแปลงไฟฟ้า 1 เฟส
ใช้ในอาคารพักอาศัยหรือสถานที่ที่ใช้ไฟฟ้าไม่มากนัก
หม้อแปลงไฟฟ้า 3 เฟส
เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ หรือระบบจำหน่ายไฟฟ้า เนื่องจากระบบไฟฟ้าสามเฟสเป็นระบบไฟฟ้าแรงดันสูง
2. แบ่งตามการใช้งาน
หม้อแปลงเพิ่มแรงดัน
เพิ่มแรงดันไฟฟ้าจากระดับต่ำให้สูงขึ้น ใช้ในสถานีผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งพลังงานไฟฟ้าผ่านสายส่งแรงสูง
หม้อแปลงลดแรงดัน
ลดแรงดันไฟฟ้าจากระดับสูงให้ต่ำลง ใช้ในระบบจำหน่ายไฟฟ้าก่อนเข้าถึงผู้ใช้งานปลายทาง
3. แบ่งตามชนิดของฉนวนและสารหล่อเย็น
หม้อแปลงไฟฟ้าแบบน้ำมัน
เป็นหม้อแปลงที่ใช้น้ำมันหม้อแปลงเป็นทั้งฉนวนไฟฟ้าและสารหล่อเย็นเพื่อระบายความร้อน มีความทนทานสูง นิยมใช้ในระบบจำหน่ายไฟฟ้าทั่วไป ทั้งบนเสาไฟฟ้าและในสถานีย่อย
อ่านบทความที่น่าสนใจ : เข้าใจก่อนติดตั้ง มาตรฐานรับรองหม้อแปลงไฟฟ้าแบบน้ำมัน (Oil-Immersed Transformer) มีอะไรบ้าง?
หม้อแปลงไฟฟ้าแบบแห้ง
เป็นหม้อแปลงที่ไม่มีของเหลวเป็นฉนวน แต่ใช้ฉนวนแข็ง เช่น เรซิน หรือวัสดุพอลิเมอร์เคลือบขดลวดเพื่อป้องกันการลัดวงจร จึงปลอดภัยสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วไหลของน้ำมัน และเหมาะสำหรับการติดตั้งภายในอาคาร หรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ
อ่านบทความที่น่าสนใจ : หม้อแปลงไฟฟ้าแบบแห้ง คืออะไร? มีคุณสมบัติและการใช้งานแบบไหน?
4. แบ่งตามวัตถุประสงค์พิเศษ
นอกจากแบ่งประเภทตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถแบ่งประเภทหม้อแปลงไฟฟ้าได้ตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ ได้
หม้อแปลงแยกวงจร
ที่ทำหน้าที่แยกวงจรไฟฟ้าออกจากกันเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ป้องกันไฟฟ้ารั่ว และลดสัญญาณรบกวน มักใช้ในห้องปฏิบัติการ เครื่องมือแพทย์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความละเอียดอ่อน
หม้อแปลงเครื่องมือวัด
ที่แยกย่อยได้อีก เช่น หม้อแปลงแรงดัน และหม้อแปลงกระแส สำหรับลดแรงดันไฟฟ้าให้ต่ำลง เพื่อให้เครื่องมือวัดสามารถวัดค่าแรงดันสูงได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ รวมถึงใช้สำหรับป้องกันในระบบไฟฟ้ากำลัง

ส่วนประกอบสำคัญของหม้อแปลงไฟฟ้า
หม้อแปลงแต่ละเครื่องประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนสำคัญหลายส่วน ซึ่งแต่ละส่วนมีบทบาทหน้าที่เฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น
1. ขดลวด
ขดลวดทำหน้าที่หลักในการแปลงพลังงานไฟฟ้าผ่านการสร้างและรับสนามแม่เหล็ก วัสดุที่ใช้มักเป็นทองแดงหรืออะลูมิเนียมที่มีฉนวนเคลือบ ซึ่งเป็นส่วนที่รับและจ่ายพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วยขดลวดปฐมภูมิ (ด้านรับไฟเข้า) และขดลวดทุติยภูมิ (ด้านจ่ายไฟออก) เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ขดลวดเหล่านี้จะสร้างและรับสนามแม่เหล็ก
2. แกนเหล็ก
แกนเหล็กเป็นทางเดินของฟลักซ์แม่เหล็กที่เกิดจากขดลวดปฐมภูมิ เพื่อส่งผ่านไปยังขดลวดทุติยภูมิ ช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการรั่วไหลของฟลักซ์แม่เหล็ก มักทำจากแผ่นเหล็กซิลิคอนบาง ๆ หลายแผ่นซ้อนกันและเคลือบฉนวนระหว่างแผ่น เพื่อลดการเกิดกระแสไหลวนและลดการสูญเสียกำลังจากฮิสเทอรีซิส ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดความร้อนในแกนเหล็ก
แกนเหล็กมีหลายรูปแบบ เช่น แบบ Core Type (ขดลวดล้อมรอบแกนเหล็ก) และ Shell Type (แกนเหล็กหุ้มขดลวด)
3. ถังหม้อแปลง/ถังน้ำมัน
หม้อแปลงแบบน้ำมัน จำเป็นต้องมีภาชนะบรรจุส่วนประกอบหม้อแปลงไฟฟ้าที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ขดลวดและแกนเหล็ก รวมถึงน้ำมันหม้อแปลง มักทำจากเหล็กกล้าที่แข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน
4. น้ำมันหม้อแปลง
นอกจากถังน้ำมันแล้ว น้ำมันหม้อแปลงก็เป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับหม้อแปลงแบบน้ำมัน เพราะทำหน้าที่เป็นทั้งฉนวนไฟฟ้า เพื่อป้องกันการลัดวงจรระหว่างขดลวดและส่วนประกอบต่าง ๆ รวมถึงเป็นสารหล่อเย็น เพื่อระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของหม้อแปลงออกสู่ภายนอก ดังนั้น น้ำมันหม้อแปลงจึงต้องมีค่าความเป็นฉนวนไฟฟ้าสูง มีจุดวาบไฟสูง (Flash Point) และจุดไหลเทต่ำ (Pour Point)
5. บุชชิ่ง
บุชชิ่งเป็นฉนวนที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างขดลวดภายในหม้อแปลงกับสายส่งไฟฟ้าภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าลัดวงจรลงสู่โครงสร้างของหม้อแปลงหรือพื้นดิน มักทำจากพอร์ซเลน หรือวัสดุฉนวนสังเคราะห์อื่น ๆ ที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศและแรงดันไฟฟ้าสูง

หม้อแปลงมือสอง ความเสี่ยงที่หลายคนอาจมองข้าม
การประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้เวลาจัดซื้ออุปกรณ์สำคัญอย่างหม้อแปลงไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้ามือสอง จึงมักถูกนำมาพิจารณาด้วย เพราะราคาหม้อแปลงมือสองต่ำกว่าหม้อแปลงใหม่มาก ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้หลายคนสนใจ แต่ทว่าการเลือกซื้อหม้อแปลงมือสอง อาจแฝงไว้ด้วยความเสี่ยงที่คุณคาดไม่ถึง เพราะบางครั้งของถูกอาจไม่คุ้มค่าอย่างที่คิด!
มาดูกันว่าราคาของหม้อแปลงมือสองที่น่าสนใจนั้น ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงใดบ้าง
สภาพการใช้งานที่ไม่แน่นอน
คำว่า มือสอง แน่นอนว่าต้องผ่านการใช้งานมาแล้ว จึงไม่อาจทราบได้เลยว่า อุปกรณ์ถูกใช้งานมาหนักเพียงใด ได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมหรือไม่ หรือมีปัญหาซ่อนอยู่ภายในบ้าง
อายุการใช้งานที่เหลืออยู่จำกัด
หม้อแปลงไฟฟ้ามีอายุการใช้งานจำกัด การเลือกซื้อหม้อแปลงมือสองอาจได้หม้อแปลงที่ใกล้หมดอายุการใช้งานแล้ว นั่นหมายความว่า อาจเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ในเวลาอันสั้น และไม่คุ้มค่ากับเงินที่ประหยัดไปในตอนแรก
ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
การใช้งานที่ยาวนานอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของหม้อแปลง ทำให้การจ่ายไฟไม่เสถียร เกิดการสูญเสียพลังงานมากกว่าที่ควรจะเป็น และอาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่เชื่อมต่ออยู่
ความปลอดภัยลดลง
หม้อแปลงที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีปัญหาภายใน อาจเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อผู้ใช้งานและทรัพย์สิน ก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งความเสียหายเหล่านี้มักสูงกว่าเงินที่ประหยัดไปจากการซื้อหม้อแปลงมือสองหลายเท่า
อ่านบทความที่น่าสนใจ : หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด ชำรุด เกิดจากอะไร? เลือกหม้อแปลงแบบไหนให้ใช้งานได้นาน
ไม่มีการรับประกัน
ส่วนใหญ่แล้ว หม้อแปลงมือสองจะไม่มีการรับประกันจากผู้ขาย ทำให้ผู้ซื้อต้องแบกรับความเสี่ยงทั้งหมด หากเกิดปัญหาหลังการซื้อ จะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายหรือเปลี่ยนสินค้าได้
ปัญหาอะไหล่และการซ่อมแซม
หากหม้อแปลงมือสองเกิดปัญหา การหาอะไหล่มาซ่อมแซมอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะหม้อแปลงรุ่นเก่าหรือไม่เป็นที่นิยม นอกจากนี้ ช่างซ่อมบางรายอาจไม่คุ้นเคยกับการซ่อมส่วนประกอบหม้อแปลงไฟฟ้ารุ่นเก่าอีกด้วย
อ่านบทความที่น่าสนใจ : 9 เช็กลิสต์สำคัญ! ตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้าหลังติดตั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ไม่ตรงตามความต้องการ
หม้อแปลงมือสองที่มีอยู่ในตลาดอาจไม่ตรงกับสเปกหรือขนาดที่ต้องการ เสียเวลาในการค้นหา และในท้ายที่สุดอาจต้องยอมใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่คุณสมบัติไม่เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ โดยเฉพาะในระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการความแม่นยำสูง

เลือกหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด?
แทนที่จะเสี่ยงกับหม้อแปลงมือสอง ลองพิจารณาทางเลือกเหล่านี้
ซื้อหม้อแปลงใหม่
แม้จะมีราคาสูงกว่าหม้อแปลงมือสอง แต่มั่นใจได้ในคุณภาพ มาตรฐานโรงงาน การรับประกันที่ชัดเจน และอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ซึ่งเมื่อคำนวณต้นทุนรวมในระยะยาวแล้ว ถือว่าคุ้มกว่า
พิจารณาหม้อแปลงมือหนึ่งราคาประหยัด
ปัจจุบันมีหม้อแปลงไฟฟ้าใหม่จากผู้ผลิตหลายราย ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการควบคุมต้นทุน หากเลือกจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ จะได้หม้อแปลงไฟฟ้าที่คุณภาพไม่ต่างจากรุ่นไฮเอนด์มากนัก
มองหาโปรโมชั่นหรือส่วนลด
มองหาโปรโมชันลดราคา แจกของแถม หรืองบสนับสนุนจากโครงการภาครัฐหรือเอกชน เพราะในบางครั้งหม้อแปลงไฟฟ้าคุณภาพสูงอาจมีราคาย่อมเยากว่าที่คิด หากซื้อในช่วงเวลาที่เหมาะสม ลองสอบถามหรือติดตามข่าวสารเพื่อโอกาสในการซื้อสินค้าในราคาที่คุ้มค่าขึ้น
ทางเลือกที่ดีกว่า เลือกหม้อแปลงไฟฟ้า จาก ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์
การซื้อหม้อแปลงมือสองอาจดูเป็นทางเลือกที่ประหยัด แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยความเสี่ยงและข้อเสียที่แฝงอยู่ มากมายที่อาจทำให้คุณต้องเสียเงินและเวลามากกว่าที่คิดในระยะยาว การลงทุนซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าใหม่ที่มีคุณภาพและได้รับการรับประกัน จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่ามาก ทั้งเพื่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง
หากกำลังมองหา หม้อแปลงไฟฟ้า ไม่ว่าสำหรับบ้าน โรงงาน หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำ เพื่อให้คุณได้รับหม้อแปลงไฟฟ้าที่เหมาะสม เราพร้อมดูแลตั้งแต่การสำรวจหน้างาน การติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขายอย่างครบวงจร เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด
สนใจสินค้าสำหรับระบบไฟฟ้า ปรึกษาทีมงานผู้มีประสบการณ์ ติดต่อเรา!