5 เช็คลิสต์ก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์จ่ายไฟอุตสาหกรรม ที่คุณอาจมองข้าม

วิธีเลือกซื้ออุปกรณ์จ่ายไฟสำหรับอุตสาหกรรม

อุปกรณ์จ่ายไฟ ถือเป็นหัวใจหลักของระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะมีหน้าที่จ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับเครื่องจักร ระบบควบคุม และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย หากเลือกอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม ไม่เพียงส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบ แต่ยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจได้โดยไม่รู้ตัว

เพื่อให้คุณสามารถเลือกอุปกรณ์จ่ายไฟได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยต่อการใช้งานมากที่สุด ในบทความนี้ ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ มีเช็คลิสต์ที่มักถูกมองข้าม ช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบคอบและแม่นยำยิ่งขึ้น

เลือกอ่าน

อุปกรณ์จ่ายไฟอุตสาหกรรมมีกี่ประเภท? 

สำหรับอุปกรณ์จ่ายไฟ หรือ Power Supply ที่ใช้ในระบบไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรมมีอยู่หลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันในเรื่องการใช้งาน ดังนี้

  • Switching Power Supply

    เหมาะกับงานที่ต้องการขนาดกะทัดรัด ประสิทธิภาพสูง เสียพลังงานน้อย เช่น ระบบอัตโนมัติ สายพานลำเลียง

  • Linear Power Supply

    เหมาะกับงานที่ต้องการความเที่ยงตรง ไร้คลื่นรบกวน เช่น ห้องทดลอง หรืออุปกรณ์วัดสัญญาณอ่อนไฟฟ้า

  • UPS (Uninterruptible Power Supply)

    เหมาะสำหรับการสำรองไฟกรณีฉุกเฉิน ป้องกันข้อมูลสูญหายและความเสียหายของเครื่องจักร

อ่านบทความที่น่าสนใจ : อุปกรณ์จ่ายไฟในโรงงานอุตสาหกรรมมีกี่ประเภท? แต่ละแบบเหมาะกับงานลักษณะใด

การเลือกอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าโรงงาน ไม่เพียงแต่ต้องเลือกประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งานเท่านั้น แต่ยังต้องเลือกให้ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามรายละเอียดของ 5 เช็คลิสต์ต่อไปนี้

การตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบไฟฟ้า กับ อุปกรณ์จ่ายไฟ

1. ตรวจสอบความเข้ากันได้ของ อุปกรณ์จ่ายไฟกับระบบไฟฟ้า

สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้อุปกรณ์จ่ายไฟ คือ ความเข้ากันได้กับระบบไฟฟ้าโรงงานที่ใช้งานอยู่เดิม ทั้งในเรื่องของแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความถี่ และรูปแบบของระบบไฟฟ้า เช่น หากโรงงานของคุณใช้ระบบแรงดันไฟสูง ควรเลือกหม้อแปลงไฟฟ้าที่รองรับแรงดันได้เพียงพอ และหากเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ ควรใช้สายไฟฟ้าที่มีขนาดและค่าการนำไฟฟ้าเหมาะสมตามข้อกำหนด

นอกจากนี้ ควรเลือกอุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม ทั้ง มาตรฐาน IEC (International Electrotechnical Commission) และมาตรฐาน มอก. สำหรับการใช้งานในประเทศไทย เพราะการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจนำไปสู่ปัญหาด้านความปลอดภัย การติดตั้ง และอายุการใช้งานของอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้าโรงงาน

ติดตั้งอุปกรณ์กันงู เพื่อลดโอกาสเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์จ่ายไฟ

2. พิจารณาสภาพแวดล้อมในการติดตั้งอุปกรณ์จ่ายไฟ

การเลือกจุดติดตั้งอุปกรณ์สำหรับจ่ายไฟในโรงงานอุตสาหกรรม จำเป็นต้องพิจารณาจากสภาพแวดล้อมโดยรวม เพราะส่งผลต่ออายุการใช้งานและประสิทธิภาพของ Power Supply โดยตรง ซึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณามี ดังนี้

  • ความชื้น
  • อุณหภูมิ
  • การสัมผัสสารเคมี
  • ฝุ่นละออง
  • สัตว์รบกวน เช่น งู หนู หรือแมลง

หากอุปกรณ์ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนต่อสภาพแวดล้อมเฉพาะเหล่านี้ อาจเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าที่ควร หรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุในระบบไฟฟ้าได้

แนวทางที่แนะนำ

การติดตั้งอุปกรณ์สำหรับจ่ายไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรมที่เหมาะสมต่อสภาพแวดล้อม สามารถใช้แนวทางต่อไปนี้ได้

  • ใช้ลูกถ้วยไฟฟ้าที่ทนความชื้นและอุณหภูมิ สำหรับพื้นที่ที่มีฝนตกบ่อยหรืออุณหภูมิแปรปรวน
  • ใช้อุปกรณ์กันงูในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันสัตว์เลื้อยคลานเข้ามารบกวนอุปกรณ์หรือสายไฟฟ้า
  • สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเคมี ควรเลือกอุปกรณ์วงจรไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี

ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์จ่ายไฟที่ครบครัน ได้มาตรฐานความปลอดภัย สนใจสั่งซื้อคลิก เลือกชมผลิตภัณฑ์

ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ช่วยประหยัดพลังงานในระบบไฟฟ้าโรงงาน

3. เลือกอุปกรณ์จ่ายไฟที่ประหยัดพลังงานและคุ้มค่าระยะยาว

การเลือกใช้อุปกรณ์จ่ายไฟที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว แต่ยังช่วยลดความร้อนสะสมภายในวงจรไฟฟ้าและช่วยยืดอายุของอุปกรณ์ในระบบ

จุดสำคัญที่ควรตรวจสอบ

  • ค่า Efficiency (%) ของหม้อแปลงไฟฟ้า หรือ Power Supply
  • สายไฟฟ้าควรมีค่าการนำไฟฟ้าสูง
  • การติดตั้งระบบพลังงานทางเลือก เช่น ระบบโซล่าเซลล์ ควรเลือกใช้แผงคุณภาพสูง ระบบ Smart Inverter และ Optimizer ที่มีคุณภาพ และที่สำคัญต้องรองรับกับพลังงานไฟฟ้าโดยรวมภายในโรงงานอุตสาหกรรมด้วย

แม้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงอาจมีราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไปเล็กน้อย แต่หากคำนวณจากค่าใช้จ่ายระยะยาวแล้ว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และตอบโจทย์กับธุรกิจอุตสาหกรรมยุคใหม่อย่างแท้จริง

เลือกอุปกรณ์จ่ายไฟ ที่มีความสามารถรองรับต่อการขยายระบบไฟฟ้าในอนาคต

4. เผื่อความสามารถรองรับการขยายระบบไฟฟ้าในอนาคต

ระบบไฟฟ้าโรงงานควรมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับต่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคต เช่น การขยายกำลังผลิต หรือเพิ่มสายการผลิตใหม่ ดังนั้น อุปกรณ์จ่ายที่เลือกใช้จึงจำเป็นต้องตอบโจทย์กับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตด้วย 

สิ่งที่ควรพิจารณา

  • หม้อแปลงไฟฟ้าควรมีกำลังสำรอง อย่างน้อย 20-30% เพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของโหลดไฟฟ้า และป้องกันการทำงานเกินพิกัด 
  • ระบบไฟฟ้าแรงต่ำควรเผื่อวงจรสำรองไว้สำหรับเครื่องจักรในอนาคต เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ระบบไฟฟ้าหลักเกิดปัญหา วงจรสำรองจะทำงานแทน ช่วยลดการเกิดปัญหาการทำงานของเครื่องจักรได้ 
  • หากมีแผนรองรับยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรม ควรติดตั้งเครื่องชาร์จ EV เอาไว้ตั้งแต่ระยะแรกของการวางระบบ เพื่อรองรับการใช้งาน

การวางแผนระบบไฟฟ้าเผื่อการขยายล่วงหน้า จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคต และไม่กระทบต่อกระบวนการผลิตเมื่อมีการติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม

อุปกรณ์จ่ายไฟต้องมีการรับประกันสินค้า และมีบริการหลังการขาย

5. ตรวจสอบบริการหลังการขาย และการรับประกันอุปกรณ์จ่ายไฟ

อุปกรณ์จ่ายไฟอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีวงจรไฟฟ้าที่มีความซับซ้อน หากเกิดปัญหาขึ้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ และควรได้รับบริการที่รวดเร็วเพื่อไม่ให้กระทบต่อการผลิต ดังนั้นการเลือกซื้อจากผู้จัดจำหน่ายที่มีบริการหลังการขาย และมีการรับประกันสินค้า จึงเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม 

สิ่งที่ต้องพิจารณา

  • ระยะเวลารับประกันของผลิตภัณฑ์
  • บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษา
  • การให้คำปรึกษาด้านเทคนิคโดยวิศวกรที่เชี่ยวชาญ
  • การจัดหาอะไหล่สำรองในกรณีเร่งด่วน

ผู้ให้บริการที่มีความพร้อมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขาย จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าจะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

อุปกรณ์จ่ายไฟไม่ใช่แค่สินค้า แต่คือการลงทุนในระบบอุตสาหกรรมของคุณ

การเลือกอุปกรณ์จ่ายไฟที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าโรงงาน แต่ยังเป็นการป้องกันความเสียหาย และสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจในระยะยาว แม้ว่าการลงทุนกับอุปกรณ์บางชนิดอาจมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความคุ้มค่าในระยะยาวแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าและบ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพในธุรกิจอุตสาหกรรมได้มากกว่า 

หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ในระบบจ่ายไฟ หรือ Power Supply คุณภาพสูง รองรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์ พร้อมให้คำปรึกษา และนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเรา หรือโทร 083-424-6999 และสามารถแอดไลน์ได้ที่ @npeq

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ อุปกรณ์จ่ายไฟอุตสาหกรรม

1. การเลือกหม้อแปลงไฟฟ้า ควรเผื่อโหลดเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม?

แนะนำให้เผื่อโหลดไว้อย่างน้อย 20–30% จากการใช้งานจริงในปัจจุบัน เพื่อรองรับการขยายกิจการในอนาคต เช่น การเพิ่มเครื่องจักร หรือสายการผลิต

ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองจากมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น IEC, UL, หรือ มอก. นอกจากนี้ควรเลือกซื้อจากผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกันสินค้า

จำเป็น เพราะสายไฟฟ้าในโรงงานต้องรองรับกระแสสูง ทนความร้อน และมีฉนวนที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม เช่น ฝุ่น ความชื้น หรือสารเคมี การใช้สายไฟทั่วไปอาจเสี่ยงต่อการชำรุดและเกิดไฟไหม้ในระบบได้

ผลิตภัณฑ์ของ ณัฐภูมิ อีควิปเม้นท์

<p>ระบบโซลาร์เซลล์</p>

ระบบโซลาร์เซลล์

<p>เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า</p>

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

<p>อุปกรณ์ไฟฟ้า</p>

อุปกรณ์ไฟฟ้า