ในปัจจุบันนิยมใช้ธาตุซิลิคอน (Si) ซึ่งเป็นธาตุที่มีมากที่สุดบนพื้นโลก มาผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จนเกิดเป็นผลึกซิลิคอน (Crystalline Silicon) ที่มีลักษณะเป็นแผ่นบางบริสุทธิ์ หลังจากนั้นจึงนำมาใช้ เป็นวัสดุหลักเพื่อผลิตแผงโซลาร์เซลล์
นอกจากนี้ ยังมีวัสดุอื่นๆ ที่สามารถนำมาผลิตโซลาร์เซลล์ได้ เช่น แกลเลียม อาร์เซไนด์ (Gallium Arsenide), อินเดียม ฟอสไฟด์ (Indium Phosphide), แคดเมียม เทลเลอไรด์ (Cadmium Telluride) และคอปเปอร์ อินเดียม ไดเซเลไนด์ (Copper Indium Di selenide) เป็นต้น
แผงโซลาร์เซลล์มี 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่ แบบ N-type และ P-type
1. N-Type
2. P-Type
สามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้บนหลังคาเกือบทุกประเภท ยกเว้น หลังคาสังกะสี หลังคาลอนคู่ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี และหลังคาที่มีความชัน
สูงเกินกว่า 60 องศา ที่ไม่แนะนำให้ทำการติดตั้ง
ปกติแล้วน้ำฝนที่ตกลงมาและความลาดเอียงของการติดตั้งจะทำให้ฝุ่นละอองต่างๆ ได้รับการชะล้างโดยธรรมชาติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหากต้องการที่จะทำความสะอาดแผงเองก็สามารถทำได้ เพียงฉีดน้ำขึ้นเป็นละอองคล้ายฝนตก โดยฉีดเฉพาะบริเวณที่เป็นกระจกนิรภัย หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำเข้าบริเวณใต้แผงโซลาร์เซลล์ และควรล้างในช่วงที่ไม่มีแดด
อย่างไรก็ตาม ตลอดอายุสัญญาโครงการ ทางบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
เพื่อให้แผงโซลาร์เซลล์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดการใช้งาน
สิ่งเหล่านี้จะทำให้แผงโซลาร์เซลล์ไม่สามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่และส่งผลให้ ประสิทธิภาพการทำงานของแผงลดลง
อย่างไรก็ตาม ตลอดอายุสัญญาโครงการ ทางบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้
แผงโซลาร์เซลล์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดการใช้งาน
แผงโซลาร์เซลล์ส่วนมากมีอายุการใช้งานประมาณ 25 – 30 ปี ประสิทธิภาพจะลดลงตามอายุการใช้งานและการบำรุงรักษา
โดยทั่วไป แผงโซลาร์เซลล์จะมีการรับประกันจากผู้ผลิตว่าสามารถใช้งานได้ถึง 25 ปี สำหรับแบบ P-Type และ 30 ปี สำหรับแบบ N-Type
โดยในระยะเวลาดังกล่าวจะรับประกันประสิทธิภาพการใช้งานไม่ต่ำกว่า 80%
สามารถติดได้ทุกที่ที่มีแสงอาทิตย์ส่องถึง โดยส่วนมากที่นิยมติดตั้งคือบนพื้นดิน บนหลังคาบ้าน บนหลังคาจอดรถ (Carport) รวมถึงบนกันสาด
(Canopy) และยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถติดตั้งบนน้ำ (Floating Solar) ได้อีกด้วย
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรติดตั้งโดยหันแผงไปทางทิศใต้ และทำมุมเอียง 10-15 องศา หากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการหันแผง
ไปทางทิศเหนือ และควรติดตั้งแผงในจุดที่ไม่มีร่มเงาต้นไม้ หรือสิ่งก่อสร้างบัง
แผงโซลาร์เซลล์ไม่ใช่อุปกรณ์ล่อฟ้า ดังนั้นในการติดตั้งแผงจะไม่ได้เพิ่มโอกาสให้เกิดฟ้าผ่าบนหลังคาบ้านของเรา
ระบบของแผงโซลาร์เซลล์ถูกออกแบบให้มีระบบป้องกันฟ้าผ่าในตัว ซึ่งเป็นไปตามหลักวิศวกรรม นอกจากนี้ ในการติดตั้งยังมีการวางระบบ
โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และยังมีการติดตั้งสายดินเพื่อเป็นการป้องกันฟ้าผ่าเพิ่มเติมอีกด้วย
การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาไม่ได้ทำให้ภายในอาคารร้อนขึ้น แต่จะช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคาร และลดการทำงานของระบบปรับอากาศ
ได้อีกด้วย ทั้งนี้เพราะแผงโซลาร์เซลล์จะเป็นปราการแรกที่สัมผัสกับแสงอาทิตย์ จึงสามารถช่วยกรองแสงส่วนหนึ่งได้ก่อนที่ความร้อน
และแสงจะส่องถึงหลังคาอาคาร
เครื่องชาร์จรถยนตร์ไฟฟ้ามีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ :
1. AC Charger
2. DC Charger
ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องชาร์จรถยนตร์ไฟฟ้าและขนาดแบตเตอรี่รถ
ตัวอย่าง : รถยนตร์ Tesla Model 3 ที่มีความจุแบตเตอรี่ 50kwh
ค่าใช้จ่ายนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของเครื่องชาร์จ หน่วยไฟฟ้าที่ใช้ หรือผู้ให้บริการสถานีชาร์จ โดยเฉลี่ยแล้ว
ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 5 – 8 บาท / กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องชาร์จ และขนาดของแบตเตอรี่รถ
สามารถดูได้จากขนาดของ on-board charger (หน่วย kW) ของรถยนต์ เนื่องจากความเร็วในการชาร์จจะขึ้นอยู่กับส่วนนี้
ตัวอย่าง : on-board charger = 7.2 kW ควรเลือกใช้เครื่องชาร์จขนาด 7.4 kW
โดยปกติขนาดมิเตอร์ของบ้านพักอาศัยทั่วไปจะใช้เป็น 15(45) 1 เฟส(1P) หมายถึงมิเตอร์ขนาด 15 แอมป์(A) และสามารถใช้ไฟ
ได้มากถึง 45(A) สำหรับคนที่ต้องการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน
แนะนำให้เปลี่ยนขนาดมิเตอร์เป็น 30(100) ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้าที่มากเกินไป
**สำหรับคนที่คิดว่าต้องเปลี่ยนระบบไฟเป็น 3 เฟสรึเปล่า? คำตอบคือ “ไม่จำเป็น” เนื่องจากถ้าบ้านไม่มีการใช้งานไฟฟ้ามากเกินไป
การใช้ไฟ 1 เฟสก็เพียงพอ
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox มีประสิทธิภาพในการกันน้ำและฝุ่นได้ (IP55) โดยสามารถติดตั้งภายนอกอาคาร และชาร์จในขณะที่ฝนตก
ตัวเครื่องและสายชาร์จสามารถโดนน้ำได้แต่ไม่ควรให้หัวชาร์จโดนน้ำ เพราะอาจทำให้สายชาร์จชื้น และส่งผลให้อายุการใช้งานของสายชาร์จลดลง
ทางที่ดีเมื่อมีการเลิกใช้งานเครื่องชาร์จแล้ว ควรนำหัวชาร์จเก็บเข้าที่จัดเก็บหัวชาร์จให้เรียบร้อย หรือนำปลอกหัวชาร์จมาปิด
เพื่อยืดอายุการใช้งานของหัวชาร์จ
อย่างไรก็ตาม ทีมผู้เชี่ยวชาญจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟดูดพร้อมกับเดินสาย ground ให้อยู่แล้ว เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
การเลือกใช้ลูกถ้วยไฟฟ้าควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น แรงดันไฟฟ้าที่ใช้ สภาพแวดล้อมที่ใช้งาน และมาตรฐานความปลอดภัย
ในการเลือกควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับอุปกรณ์ที่เหมาะสม
ลูกถ้วยไฟฟ้าต้องมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาเป็นระยะๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตรวจสอบการสึกหรอ
และความสะอาดรวมถึงการเปลี่ยนลูกถ้วยที่เสื่อมสภาพ
การติดตั้งลูกถ้วยไฟฟ้าต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ ในการติดตั้งต้องมีการตรวจสอบสภาพเสาและสายไฟ
รวมถึงการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการติดตั้ง
หากไม่มีประสบการณ์ในการติดตั้ง แนะนำให้ใช้บริการจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ผลิตจากพลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastic) และยางพลาสติก (Plastic Rubber)
ที่มีความทนทานสูงต่อสภาพอากาศและการกัดกร่อน
สามารถติดตั้งบนเสาไฟฟ้าขนาด 12, 14 และ 22 ได้
สามารถปรับขนาดเพื่อให้พอดีกับเสาได้ ดังนี้:
มีการรับประกันสินค้า โดยแต่ละรุ่นมีระยะเวลาการรับประกันแตกต่างกัน ตั้งแต่ 2 – 5 ปี
เพียงแค่ตรวจสอบความเสียหายหรือสิ่งสกปรกเป็นระยะ และทำความสะอาดตามความจำเป็น
ได้ ถึงแม้ว่าในการเริ่มต้นจะถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันงู แตก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันสัตว์อื่น ๆ เช่น หนู
หรือนกที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกัน
ขนาดของสายไฟ = พื้นที่หน้าตัดของตัวนำ (หน่วย : ตร.มม.) เช่น 2×4 sq.mm หมายถึง มี 2 แกน แต่ละแกนมีพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ 4 ตร.มม.
ตัวนำทองแดง :
ตัวนำอลูมิเนียม :
ฉนวน PVC ทนอุณหภูมิสูงสุดต่อเนื่องได้ 70°C ในขณะที่ฉนวน XLPE ทนอุณหภูมิสูงสุดต่อเนื่องได้ 90°C ดังนั้น สายที่มีฉนวน XLPE
จะนำกระแสได้มากกว่าฉนวน PVC ที่ขนาดตัวนำเท่ากัน
สายที่มีเปลือก PVC :
สายที่มีเปลือก PE :
เป็นสายไฟที่เมื่อถูกไฟไหม้ไฟจะลุกลามไม่มากเมื่อเทียบกับสายไฟโดยทั่วไป ใช้กับระบบไฟฟ้าทั่วไป หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดเพลิงไหม้
คุณสมบัติโดยทั่วไปเหมือนสายหน่วงไฟ แต่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งในขณะที่ถูกไฟไหม้ ใช้กับระบบช่วยชีวิตต่างๆ
เช่น ระบบไฟฉุกเฉิน ระบบสัญญาณเตือนภัย ระบบป้องกันอัคคีภัย เป็นต้น
อย่างน้อย 20 ปี
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ :
ควรพิจารณาดังนี้
หม้อแปลงไฟฟ้ามีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 20 – 30 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพการใช้งาน หากมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
และใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หม้อแปลงไฟฟ้าสามารถใช้งานได้นานขึ้น